แอบดูหลังครัว Cookool หมูอบสับปะรด
ไปปราณบุรีครั้งใด ต้องขอไปแวะกินข้าวที่ร้านอุดมโภชนา นอกจากจะได้อาหารทะเลสดๆ รสชาติดี ยังมีเมนูเด็ดอย่างปลาหมึกแดดเดียวที่อร่อยไม่มีที่ไหนเหมือน
โดย...สีวลี ตรีวิศวเวทย์ / ภาพ : Cookool Studio
ไปปราณบุรีครั้งใด ต้องขอไปแวะกินข้าวที่ร้านอุดมโภชนา นอกจากจะได้อาหารทะเลสดๆ รสชาติดี ยังมีเมนูเด็ดอย่างปลาหมึกแดดเดียวที่อร่อยไม่มีที่ไหนเหมือน นอกจากผู้เขียนจะชอบในรสมือของร้านนี้แล้ว ยังชอบพอในนิสัยใจคอของคุณลุงเจ้าของร้าน ผู้มีกลเม็ดมัดใจลูกค้าให้อยากกลับมาอีก กินอิ่มปุ๊บ สั่งเช็กบิล จะมีผลไม้รวมแช่เย็น จานกำลังพอดีส่งมาให้ล้างปาก เด็ดที่สุดคือ สับปะรดปราณบุรี เนื้อฉ่ำ รสหวานหอม ติดใจกันทั้งบ้าน
มีอยู่หนึ่งเมนูที่ถือเป็นทีเด็ด เรียกได้ว่า สไตล์ครัวปราณบุรีเลยก็ว่าได้ นั่นคือ ซี่โครงหมูอบสับปะรด ใช้สับปะรดหวานฉ่ำจากไร่ที่ว่า หากครั้งใดที่ได้มามากๆ ก็มักจะนำมาปรุงเป็นเมนูนี้ ส่งออกมาให้ลูกค้าได้ชิม
พอเห็นสับปะรด สมาชิกทุกคนเล็งกันไว้เลยว่าต้องอร่อยแน่ ด้วยคุณภาพความอร่อยของสับปะรดเป็นทุนเดิม รสชาติของซี่โครงหมูอบไม่ซับซ้อน เป็นที่ถูกใจของเด็กและผู้ใหญ่ ผู้เขียนชิมมา 2 ครั้ง นำกลับมาแกะสูตร เก็บไว้เป็นอาหารประจำบ้าน ทำไว้เยอะ เลยแบ่งมารับประทานเป็นอาหารกลางวันที่สตูดิโอ คู่ข้าวสวย ถือเป็นอาหารจานเดียว ไม่ยุ่งยากหากับข้าวอื่นมาเสริม ได้รับคำชมจากเพื่อนร่วมสตูดิโออยู่เหมือนกัน
สังเกตดูที่ “อุดม” ใช้ซี่โครงหมูอ่อนหั่นชิ้นเล็กๆ ผู้เขียนชอบซี่โครงหมูอ่อนเหมือนกันแต่เป็นไซส์ใหญ่ ยังไม่สับเป็นท่อน ถึงจะใช้เวลาในการตุ๋นนานกว่า แต่เมื่อตุ๋นเสร็จแล้ว ได้เนื้อเยอะ กินง่าย ตักเป็นท่อนๆ เนื้อล่อนจากกระดูก น่าอร่อย บอกแล้วว่าเรานำความอร่อยของเขามาเป็นแรงบันดาลใจ ส่วนที่เหลือเป็นการบรรเลงความอร่อยจากไอเดียของเราเอง
ส่วนผสมด้านเครื่องเทศ ยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ มีเพียงกระเทียมกลีบ ไม่ต้องสับหรือทุบ แม้แต่แกะเปลือก รากผักชีสักหน่อยไม่ต้องทำอะไรนอกจากล้างให้สะอาด ผัดกระตุ้นให้หอมด้วยน้ำมันพืช
กรรมวิธีการทำอาหารประเภทเนื้อสัตว์ที่ต้องตุ๋น เคี่ยวให้อร่อยอยู่ที่ขั้นตอนของการทอดหรือจี่ชิ้นเนื้อให้สีสวย ขั้นตอนนี้จะเพิ่มความหอมให้กับอาหารตุ๋นของเรา ทั้งยังให้สีสวยๆ ของน้ำซอสและชิ้นเนื้อทำให้ดูน่ากินมากขึ้น
เมนูเหมาะสำหรับคุณผู้อ่านที่กำลังเริ่มต้นทำอาหาร เพราะกรรมวิธีการปรุงไม่ซับซ้อน ทำได้ง่ายเสร็จในหม้อเดียว ยิ่งเคี่ยวยิ่งอร่อย ถ้าเริ่มเก่งแล้ว หรือชอบทำอาหารเป็นทุนเดิม เมนูนี้สามารถทำไว้ครั้งละมากๆ อย่างกระดูกหมูสัก 3-4 กิโลกรัมในครั้งหนึ่ง แบ่งเก็บไว้รับประทานได้ โดยแยกเป็นชุดๆ ในช่องแช่แข็ง แล้วนำมาอุ่นไฟอ่อน รับรองว่าง่ายดาย พื้นที่หมดแล้ว มาดูสูตรกันเลยค่ะ
ซี่โครงหมูอบสับปะรด สูตร Cookool ลอกอุดมโภชนา
ซี่โครงหมูอ่อน ท่อนประมาณ 3-4 นิ้ว 1 กิโลกรัม
กระเทียมกลีบเล็ก (เพราะหอมกว่ากลีบใหญ่) 1520 กลีบ
รากผักชี ล้างให้สะอาด ตัดให้ติดลำต้นเขียวเข้ามาสัก 2 นิ้ว 3 ต้น
น้ำมันพืช 3-4 ช้อนโต๊ะ
สับปะรดแบบฉ่ำ หั่นเป็นชิ้นเต๋า 1.5 นิ้ว 1 ลูกย่อมๆ (7 ขีด)
ซอสมะเขือเทศ Ketchup 0.5 ถ้วย
ซอสถั่วเหลืองปรุงรส 4 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
แป้งข้าวโพดละลายน้ำ (ความข้นเท่าๆ กับความข้นของวิปปิ้งครีมจะเหมาะที่สุด ไม่ทำให้ซอสเจือจาง)
ประมาณ 3-4 ช้อนโต๊ะ
- หมักซี่โครงหมูด้วยซอสปรุงรส สัก 2-3 เหยาะ และพริกไทยขาว 2-3 เหยาะ พักไว้สัก 30 นาทีนอกตู้เย็นให้คลายความเย็นลง ขณะให้เตรียมส่วนผสมอื่นๆ
- ตั้งกระทะก้นลึก หรือหม้อ ให้ร้อนจัด เติมน้ำมันพืชลงไป ผัดกระเทียมทั้งกลีบและรากผักชีทั้งต้นให้หอมที่ไฟอ่อน สังเกตดูสีจะเริ่มเหลือง ตักขึ้นมาพักไว้ จากนั้นเร่งไฟให้แรงขึ้นเป็นไฟกลางค่อนไปทางแรง รอให้ร้อนจัด จี่ซี่โครงหมูให้เหลืองทีละ 3-4 ชิ้น (ขึ้นกับขนาดของหม้อและกระทะที่ใช้) พักไว้ในถาดหรือชามใบใหญ่
- เมื่อเหลืองหมดแล้ว เติมสับปะรดลงไปจี่ที่ไฟแรง ให้เริ่มเกรียม พลิกเบาๆ เพื่อจี่อีกด้าน
- ใส่ซอสมะเขือเทศลงไปผัดให้หอม ประมาณ 1 นาที
- เติมซี่โครงหมู กระเทียมและรากผักชีที่ผัดไว้แล้วลงไป ปรุงรสด้วยเครื่องปรุงทั้งหมด เติมน้ำสะอาดลงไปให้พอท่วมซี่โครงหมู อย่ามากจนเกินไป เร่งไฟให้เดือด ชิมรสดู รสชาติตอนนี้จะจืดกว่าเมื่อซี่โครงหมูเปื่อยแล้วสักหน่อย ควรชิมให้รสชาติพอดีไว้ก่อน จึงค่อยปรับรสตามชอบ หรี่ไฟลงให้เบาที่สุด เคี่ยวต่อไปประมาณ 2 ชั่วโมง ไม่ปิดฝา รอให้เนื้อล่อนจากกระดูกและน้ำซอสข้นขึ้น
- ตักซี่โครงหมูขึ้นจากซอส รินน้ำแป้งข้าวโพดลงไป คนให้เข้ากันเร่งไฟให้เดือด เพื่อให้ซอสข้นขึ้น ชิมและปรับรสอีกครั้งตามชอบ