พิชญะ นิธิไพศาลกุล วันนี้และวันต่อไป

โดย...ตุลย์ จตุรภัทร

ใครเป็นคอหนังไทย โดยเฉพาะหนังแนวสยองขวัญ คงไม่พลาดตีตั๋วเข้าไปชมภาพยนตร์เรื่อง The Couple รัก ลวง หลอน ที่กำลังเข้าฉายอยู่ ณ ขณะนี้ หากพูดในมุมของนักแสดงนำ บทบาทของนักแสดงนำย่อมมีอะไรให้เล่นอยู่ไม่ใช่น้อย เพราะความท้าทายของการแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ มันอยู่ตรงที่เราจะอยู่และรับมือกับ “คนใกล้ที่กลายเป็นคนแปลกหน้า” ได้อย่างไร

วันนี้ กอล์ฟ-พิชญะ นิธิไพศาลกุล นักแสดงนำของเรื่อง จะมาบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ของภาพยนตร์เรื่องนี้ รวมทั้งเรื่องราวชีวิตในวัย 27 ปี ของเขาให้เราได้รับรู้

“กับภาพยนตร์เรื่องนี้ ผมรับบทเป็นกานต์ ซึ่งเป็นน้องคนสุดท้องของครอบครัว กานต์มีความเป็นตัวของตัวเองสูง และพี่ๆ ของกานต์อยากให้กานต์มาช่วยธุรกิจของครอบครัว ทั้งที่หลังจากแต่งงาน กานต์อยากปลีกตัวออกมาอยู่คอนโดมิเนียมกับแฟนที่ชื่ออ้อมกันสองคน รวมทั้งอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง แต่สุดท้ายก็ต้องกลับไป เพื่อหาเงินมาสร้างเนื้อสร้างตัว”

พิชญะ เผยว่า ตัวละครตัวนี้มีหลายส่วนที่คล้ายคลึงกับตัวเขา ตรงที่เขากับกานต์เป็นคนที่คิดนอกกรอบ มีความเป็นตัวของตัวเอง และทุ่มเทกับความรัก ซึ่งในเรื่อง กานต์รักและผูกพันกับอ้อม ทำทุกสิ่งเพื่อปกป้องอ้อม รวมทั้งพยายามมองข้ามในสิ่งที่ไม่ดี และพยายามหาเหตุผลเพื่อมองข้ามสิ่งที่ผิด

“แม้กานต์จะรักอ้อมมาก แต่เมื่ออ้อมถูกสิง กานต์ก็เริ่มระแวงและผวากับคนรักตัวเอง ซึ่งในฐานะนักแสดง ยอมรับการนี่เป็นภาวะที่เครียดและสับสนมาก ลองคิดดูว่าหากคนรักของคุณมีอาการผีสิง และทำสิ่งต่างๆ ที่เราไม่สามารถคาดถึงได้ เราจะรับมือกับมันอย่างไร”

นอกจากความน่ากลัวของอ้อมที่กานต์สัมผัสได้พิชญะ ยังเผยอีกว่า  ปมภายในครอบครัวที่ค่อยๆ คลี่คลายให้กานต์ได้รับรู้ ก็มีมุมที่น่ากลัวและคาดไม่ถึง ซึ่งนี่น่าจะเป็นจุดที่ทำให้คนดูได้คิดตามว่า แท้จริงแล้วคนใกล้ตัวที่น่ากลัวที่สุดนั้นคือใครกันแน่

“ในการรับบทกานต์ มีหลายฉากที่ต้องถ่ายทอดอารมณ์หนักๆ แต่มีหนึ่งฉากที่รู้สึกสะเทือนอารมณ์มาก คือฉากที่กานต์ต้องเผชิญกับความสูญเสียครั้งใหญ่ ต้องวิ่งลงบันไดประมาณ 20 ชั้น อยู่ๆ ขาก็ชาขึ้นมาจนถึงแขนและท้อง พอสั่งแอ็กชั่นแล้วตัวของผมก็ทรุดฮวบลงไปตามบท เหมือนร่างกายซ่าๆ มีเม็ดเลือดวิ่ง พอผู้กำกับสั่งคัตแล้วก็ยังอยู่ในอารมณ์นั้น เหมือนคนที่เหนื่อยมาจริงๆ ตัวชา และปล่อยโฮ นั่งร้องไห้ คุกเข่า ซึ่งผมยอมรับว่ารู้สึกอินกับฉากนั้นมาก เพราะทำให้เรานึกถึงคนที่เรารักในชีวิตจริง”

 

พิชญะ เผยว่า หากเป็นเมื่อก่อน นี่คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาในการเฟดตัวเองออกจากการแสดง เมื่อผู้กำกับสั่งคัต แต่เมื่อเขาสามารถแยกแยะได้ว่า นั่นคือตัวละคร เมื่อสั่งคัต เขาต้องกลับมาเป็นตัวเอง ก็ทำให้เขาสามารถทำได้ในท้ายที่สุด

“สำหรับการร่วมงานกับ ออม สุชาร์ ออมเป็นคนเก่งและจริงจัง ให้ความสำคัญกับที่มาที่ไปของบท และมักให้ความสำคัญกับแบ็กกราวด์ของตัวละคร เพื่อให้เล่นออกมาได้สมจริง ที่ประทับใจที่สุดคือการทำวีทีอาร์งานแต่งงานร่วมกัน ซึ่งพอคุยกับออมแล้วเราสองคนก็อยากทำอะไรบางอย่างเพื่อดึงคาแรกเตอร์ของอ้อมและกานต์ออกมาให้คนดูได้เห็นและเข้าใจความรักของคู่นี้ได้จริงๆ”

นอกจากการเป็นนักแสดง พิชญะ บอกว่า ตอนนี้เขาได้เปิดบริษัท พิชญะ เอนเตอร์เทนเมนต์ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำทุกสิ่งอย่างเกี่ยวกับวงการบันเทิงและวงการแฟชั่น

“ตอนนี้บริษัทของผมรับทำมิวสิควิดีโอ ไวรัลวิดีโอ ทำสตอรี่บอร์ด จัดเสื้อผ้า คือทำทุกอย่าง เรามีฟรีแลนซ์ที่มีความสามารถมาช่วยทำ ผมโชคดีที่ได้ทำงานเบื้องหน้า เบื้องหลัง รวมทั้งเรียนทางด้านการทำเพลงมาก่อน เวลาทำซาวด์ในงานมันเลยค่อนข้างง่าย ซึ่งเป้าหมายที่อยากทำต่อไป ผมอยากทำซีรี่ส์ที่นำเสนองานด้าน
วิชวลเอฟเฟกต์ที่ผมมีความสนใจมากเป็นพิเศษ ซึ่งถ้ามีโอกาสได้ทำ คงสนุกกันมันอย่างแน่นอน”

 

กับความรักระหว่างเขากับแฟนสาวชาวรัสเซีย ที่ชื่อ เคธี่ พิชญะ เผยว่า ตอนนี้แฟนสาวของเราเรียนอยู่ประเทศอิตาลี ด้านแฟชั่นดีไซน์ แม้ว่าตอนนี้จะอยู่ห่างไกลกัน แต่ระยะเวลาที่เขากับแฟนคบกันมาเกือบ 2 ปีแล้ว ก็ทำให้รู้ว่า เรื่องของความไกลไม่ใช่อุปสรรคปัญหาสำหรับความรักเลย

“ตอนนี้เราสองคนโตขึ้นเรื่อยๆ ต่างก็มองถึงอนาคตที่อยู่บนพื้นฐานที่ว่าทำวันนี้ให้ดีที่สุด เราต่างซัพพอร์ตและให้กำลังใจกันและกัน เมื่อเขาเรียนจบกลับมาอาจทำธุรกิจร่วมกัน หรืออาจแยกไปทำตามเป้าหมายของตัวเอง แต่ยังไงคงทำงานแบบหนีกันไม่พ้น เพราะคงต้องได้พึ่งพาอาศัยกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง”

กับการทำงานเพลง พิชญะ บอกว่า เขายังคงทำงานเพลงอยู่ แต่เป็นการทำเพลงแบบสนุกๆ ด้วยใจรัก และทำเพื่อให้ตัวเองยังได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์อยู่  โดยไม่ได้คาดหวังเงินทองอีกต่อไปแล้ว แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้เขาเป็นคุณลุงของหลานชาย ที่ชื่อว่า น้องแมกซ์เวลล์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“เห็นหน้าหลานแล้วก็อยากมีลูกเป็นของตัวเองเหมือนกันนะ (หัวเราะ) เอาเป็นว่า ถ้าผมมีลูก ผมคงต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกของผมอยู่แล้ว เหมือนที่ไมค์เขาก็เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกของเขา ซึ่งผมดีใจนะที่เขาดูแลลูกชายของเขาเป็นอย่างดี ซึ่งผมก็เอาใจช่วยเขาสำหรับการทำหน้าที่ครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต

ของเขาครับ”