posttoday

กันต์ รตนาภรณ์ คิดแล้วทำสร้างฝันให้เป็นจริง

19 พฤษภาคม 2558

ฝ่าการจราจรอันหนาแน่นในอุณหภูมิกว่า 40 องศา เพื่อไปสัมภาษณ์หนุ่มหน้าเข้มวัย 20 ปลายๆ

โดย...อณุสรา ทองอุไร ภาพ : เสกสรร โรจนเมธากุล

ฝ่าการจราจรอันหนาแน่นในอุณหภูมิกว่า 40 องศา เพื่อไปสัมภาษณ์หนุ่มหน้าเข้มวัย 20 ปลายๆ ที่มีรอยยิ้มสดใสช่วยลดดีกรีความร้อนของอากาศไปได้มากทีเดียว แม้วัยยังไม่ถึง 30 ดี แต่ก็ถือว่าเขาทำงานมากมายหลายสิ่ง เหมาะกับพลังอันเหลือเฟือของวัยหนุ่มฉกรรจ์

ทั้งเปิดบริษัทกราฟฟิกดีไซน์ของตัวเอง ในชื่อ ท็อปกัน โพรดักต์ แอนด์ ดีไซน์ ที่เปิดมาได้ 4 ปีกว่า ตั้งแต่เรียนจบกลับมาจากสหรัฐ พร้อมๆ ไปกับทำแบรนด์เสื้อผ้าและเครื่องหนังในชื่อ โยโล แบรนด์ ขายของผ่านออนไลน์เมื่อ 4 ปีที่แล้ว และเพิ่งมีหน้าร้านที่สยามสแควร์ซอย 1 เมื่อครึ่งปีที่ผ่านมา และยังทำแบรนด์แฟชั่นชุดว่ายน้ำทั้งชายและหญิง ในชื่อ แทนแทน เมื่อ 5 เดือนที่ผ่านมา ทุกแบรนด์ของเขาขายทั้งออนไลน์ หน้าร้านที่สยามสแควร์ และล่าสุดเพิ่งเปิดร้านอาหารชื่อ นัดมาแซ่บ ย่านเกษตร-นวมินทร์ และเร็วๆ นี้จะทำครีมทำความสะอาดผิวร่วมกับเพื่อนดาราในชื่อ เนเจอร์พลัส

ยังไม่หมดแค่นี้... เขายังเป็นนักลงทุนตัวยง มีพอร์ตเล่นหุ้นเป็นของตัวเอง ควบคู่กับการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการซื้อคอนโดมิเนียมให้ต่างชาติเช่า ซึ่งตอนนี้มีอยู่ 5 ยูนิต เกาะตามแนวรถไฟฟ้า และปลายปีนี้เขาอาจจะหุ้นกับเพื่อนๆ เปิดบูติกโฮเต็ลเล็กๆ ย่านสาทรอีกด้วย

เชื่อหรือยังว่าเขาเป็นหนุ่มทุ่มเทกับงานอย่างกับคนที่มีพลังงานเหลือเฟือ แม้จะทุ่มเทในการทำงานขนาดนี้ แต่เขายังมีเวลาเข้าฟิตเนสได้สัปดาห์ละ 3 ครั้ง เพื่อความฟิตแอนด์เฟิร์ม เรียกว่า 7 วัน/สัปดาห์นั้น เวลาของเขาถูกใช้ไปอย่างคุ้มค่าที่สุด ไม่มีเวลาเหลือให้เปล่าประโยชน์อะไรเลย

กันต์ รตนาภรณ์ คิดแล้วทำสร้างฝันให้เป็นจริง

 

ด้านการศึกษานั้น เขาจบ ม.3 ที่โรงเรียนจิตรลดา แล้วไปต่อไฮสคูลที่บอสตัน และต่อปริญญาตรีด้านกราฟฟิกดีไซน์ที่บอสตันด้วย เมื่อจบแล้วทำงานที่นั่นอยู่หนึ่งปี จึงกลับประเทศไทย และมาเปิดบริษัทของตัวเองทันที เขาเล่าว่า เขามีพี่ชาย 2 คน เขาเป็นคนสุดท้อง คุณแม่มีร้านอาหารชื่อบราวชูการ์ เปิดที่บอสตัน 3 สาขา เปิดมา 15 ปีแล้ว ตอนไปเรียนหนังสือเขาและพี่ๆ ก็มักจะมาช่วยงานที่ร้านอาหารอยู่เสมอ จนทำให้เขาทำอาหารไทยเป็นหลายอย่าง และแน่นอนว่าการทำร้านอาหารเป็นหนึ่งในธุรกิจที่เขาสนใจ

“พี่ๆ จบปริญญาโทกันแล้วถึงกลับเมืองไทย ตอนแรกคุณแม่ยังไม่อยากให้กลับ อยากให้เรียนจบปริญญาโทเสียก่อน แต่ผมไม่อยากเรียนแล้ว ร้อนวิชาอยากทำงานมากกว่า พอลองทำงานที่อเมริกามา 1 ปี ไม่ชอบทำงานออฟฟิศแบบตอกบัตร อยากทำงานอิสระ ก็เลยกลับมาเปิดบริษัทของตัวเอง พร้อมๆ กับทำงานอื่นๆ ที่เราสนใจไปด้วย บริหารจัดการเวลาได้ตามที่เราถนัด ก็ออกมาอย่างที่เห็นนั่นแหละครับ ผมตื่นเช้าเข้าออฟฟิศกราฟฟิก บ่ายทำงานด้านเสื้อผ้าและแอกเซสซอรี่อื่นๆ เย็นเข้าร้านอาหาร กลางคืนเข้าฟิตเนสสัปดาห์ละ 2-3 วัน เป็น 7 วันที่มีเรื่องให้ทำตลอดๆ ก็พอดีๆ ยังไม่แน่นมาก ยังหนุ่มมีพลังเยอะต้องใช้ให้คุ้ม สัก 40 ค่อยพัก ตอนนี้มีแรงเยอะต้องลุยไปก่อน ไม่งั้นจะเสียใจว่าอยากทำแล้วไม่ได้ทำ อยากทำทำเลย อย่าให้เป็นแค่ความฝัน” เขากล่าวอย่างมุ่งมั่น

อดถามไม่ได้ว่าทำไมถึงทำอะไรเยอะแยะนัก แล้วโฟกัสไปที่อะไรกันแน่ เขาตอบกลับมาว่า เลือกทำที่ชอบ ทุกสิ่งที่ทำล้วนเป็นเรื่องที่เขาสนใจ อีกอย่างเขาชอบทำธุรกิจ ถ้าอะไรที่มีแนวโน้มดี แล้วใช่ทางของเขา เขาก็จะลองทำดู ทุกสิ่งเพื่อให้รู้แน่ๆ ว่า ชอบอะไรมากที่สุด ถนัดอะไรมากที่สุด แน่นอนว่าต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นไปได้ ศึกษาหาข้อมูล ดูจนแน่ใจ ใส่ความเป็นตัวตนของเขาลงไป ตัดความเสี่ยงให้เหลือน้อยที่สุด แล้วลุยเลย ไม่งั้นมันจะเป็นแค่ความอยากแล้วไม่ได้ลงมือสักที ปล่อยให้เป็นความฝันที่ไม่มีวันเป็นจริง ก็มีบ้างที่คิดแล้วพลาดแต่ก็น้อยมาก ส่วนใหญ่ผลลัพธ์ที่ได้ก็น่าพอใจ ส่วนที่พลาดถือเป็นบทเรียนเป็นประสบการณ์ที่เราจะไม่ให้เกิดซ้ำอีก

กันต์ รตนาภรณ์ คิดแล้วทำสร้างฝันให้เป็นจริง

 

เรื่องบริหารจัดการเวลานั้นไม่มีปัญหา เขาทำงานตามลำดับความสำคัญ แล้วด้วยงานที่ทำนั้นจะมีช่วงว่างช่วงพีก แฟชั่นออกเป็นฤดูกาล ช่วงไหนจะมีคอลเลกชั่นใหม่ก็จะยุ่งอยู่สัก 2 เดือน หลังจากนั้นก็ซาลง ก็จัดลำดับกันไป อันไหนควรก่อนควรหลัง ทำงานมา 5 ปีแล้ว ก็ไม่มีปัญหาอะไร บางงานมีหุ้นส่วนก็แบ่งหน้าที่กันตามความถนัดของแต่ละคนก็ไหลลื่นไปได้

“ตอนนี้ผมก็ทำสิ่งที่มีอยู่ให้แข็งแรงมั่นคง คือทำแบรนด์ที่มีอยู่ให้แข็งแรง บางแบรนด์จะเปิดช็อปเพิ่ม บางแบรนด์จะทำไลน์สินค้าเพิ่มขึ้น และทุกๆ แบรนด์จะทำตลาดในต่างประเทศเพิ่มขึ้น เพราะเริ่มส่งออกไปยังสิงคโปร์ ญี่ปุ่นบ้างแล้ว ก็หาตลาดใหม่ๆ ในต่างประเทศเพิ่มขึ้นอีก ปีนี้จะทำอยู่เท่านี้ก่อน ปีหน้าค่อยคิดว่าจะมีอะไรให้เหมาะให้ทำ ส่วนปลายปีนี้ตั้งใจจะบวชให้คุณพ่อคุณแม่สัก 2 วีก ตั้งใจไว้แล้วผมเคยบวชเณรมา 1 เดือน ก็เลยคิดว่าควรจะบวชพระสักครั้งในชีวิตนะสำหรับลูกผู้ชายไทย” เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม

หลักการทำงานของเขานั้นไม่มีอะไรซับซ้อน ก็คือเลือกทำในสิ่งที่ชอบที่เราสนใจ และมองว่ามีความเป็นไปได้ ทำการบ้านเยอะๆ ถึงโอกาสความเป็นไปได้ ไม่ต้องตามกระแส คิดอะไรให้ฉีกแต่เป็นสไตล์เฉพาะตัว พร้อมแล้วลุยเลย ที่สำคัญคืออย่ากู้แบงก์มาลงทุน อย่างน้อยต้องมีเงินของเราเองเกินครึ่ง เริ่มจากธุรกิจที่ไม่ต้องลงทุนสูงมากนัก เริ่มจากเล็กๆ แล้วค่อยขยายเมื่อเราเชี่ยวชาญมากขึ้น นั่นคือสูตรสำเร็จของเขา

กันต์ รตนาภรณ์ คิดแล้วทำสร้างฝันให้เป็นจริง

 

กันต์ บอกว่า แม้จะเห็นว่าทำงานมากมายหลายอย่างเกือบ 7 วัน/สัปดาห์ แต่เวลาพักนั้นเขาก็พักจริงๆ จะเดินทางท่องเที่ยวแบบลุยๆ ชอบเที่ยวแบบธรรมชาติสวยงาม ซึ่งแต่ละปีเขาจะมีพักร้อน 2 วีก เพื่อเดินทางท่องเที่ยวไปต่างประเทศทั้งใกล้และไกล เพื่อไปเติมพลังอยู่กับธรรมชาติและหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการทำงาน ถ้าช่วงว่างก็จะอ่านหนังสือ เขามีหนังสือเป็นเพื่อนมาแต่เด็ก ชอบหนังสือแนวเสริมสร้างกำลังใจและคิดบวก หรือหนังสือฮาวทูให้นำมาปรับใช้ในชีวิตและการทำงานได้ ชอบอ่านงานประวัติชีวิตคนที่ประสบความสำเร็จ

วกเข้าเรื่องหัวใจ ตอนนี้ยังว่าง เพราะอยากจะทำงานเยอะๆ ให้ประสบความสำเร็จเสียก่อน แล้วก็บวชให้เรียบร้อย เรื่องครอบครัวค่อยไปคิดตอน 30 กว่าๆ ส่วนสเปกสาวที่ชอบ ขอให้ฉลาดๆ คุยกันรู้เรื่อง โดยเฉพาะถ้าสนใจเรื่องการทำธุรกิจจะยิ่งชอบ จะได้เป็นคู่คิด เพราะภรรยาจะต้องส่งเสริมให้ชีวิตคู่ดีขึ้น

“มีแฟนแล้วชีวิตต้องดี ต้องพัฒนาส่งเสริมซึ่งกันและกัน ไม่ถ่วงซึ่งกันและกัน จะทำให้ชีวิตไม่มีความสุข สมองมาก่อน สวยเป็นรอง แต่สวยด้วยฉลาดด้วยก็สมบูรณ์แบบมาก...ชัดเจนนะครับ จบข่าว"