posttoday

โรคถุงน้ำในรังไข่

06 มิถุนายน 2558

ไม่นานมานี้ เพื่อนสาวของผมบ่นปวดท้องรุนแรงเหลือเกิน ท้องก็ป่องขึ้นเรื่อยๆ

โดย...ธนวัฒน์ เพ็ชรล่อเหลียน

ไม่นานมานี้ เพื่อนสาวของผมบ่นปวดท้องรุนแรงเหลือเกิน ท้องก็ป่องขึ้นเรื่อยๆ 

ปกติเธอเป็นคนอดทน-ทรหด แต่อาการปวดครั้งนี้เล่นงานเธอถึงขั้นล้มหมอนนอนเสื่อ ต้องยื่นจดหมายลาป่วยไปหลายวัน

แรกเริ่มเธอปวดหน่วงๆ นานวันเข้าอาการปวดทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายเป็นต้องกระเตงร่างกายไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง

“โรคถุงน้ำในรังไข่” แพทย์วินิจฉัยอาการของเธอก่อนสรุปผล โรคนี้มีชื่อเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Polycystic Ovary Syndrome

โรคถุงน้ำในรังไข่นั้น พบได้ทั่วไปในผู้หญิงที่มีประจำเดือนไม่ปกติแล้วมีไข่โตเต็มที่พร้อมผสมพันธุ์ แต่ไข่กลับไม่ตกกลายเป็นประจำเดือน

แต่ละครั้งที่อาการกำเริบ คืออาจจะมีไข่หลายใบเกิดค้างในท้อง ค้างรังไปเรื่อยๆ และส่งผลให้น้ำในมดลูกมีปริมาณเพิ่มขึ้น ท้องบวม คล้ายตั้งครรภ์ 1-2 เดือน

กรณีคนมีปัญหาเกิดโรคนี้บ่อยๆ จะส่งผลต่อการมีบุตรในอนาคต ดังนั้นหากผู้หญิงที่แต่งงานแล้วและต้องการมีบุตร ควรต้องกินยาบำรุงร่างกายและบำรุงเลือด หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ ลดยาเลื่อนประเดือน ลดปริมาณการกินยาแอสไพริน

“หมอบอกว่าโรคถุงน้ำในรังไข่สามารถหายได้เองโดยไม่ต้องกินยา โดยจะหายได้ใน 2-3 เดือนส่วนการรักษาก็ให้กินยาลดอาการปวดท้องไปจนกว่าไข่จะฝ่อ ต้องทนปวดแสบปวดร้อนไปพลางๆ” เธอเล่าให้ฟัง และบอกอีกว่า อาการปวดท้องจะไม่รุนแรงถึงขั้นเดินไม่ไหว อย่างไรแล้วคนไข้ต้องอดทนไปก่อน

มีบทความวิชาการของ นพ.ธีรศักดิ์ ธำรงธีระกุลและทีมแพทย์ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากวิภาวดี ซึ่งอธิบายถึงการเกิดโรคดังกล่าวไว้อย่างน่าสนใจ

“ถุงน้ำรังไข่อาจเกิดจากการทำงานของรังไข่หรืออาจเกิดจากโรคที่รังไข่ก็ได้ ถ้าเกิดจากการทำงานแปรปรวนของรังไข่ อาจเป็นถุงไข่ที่ไข่ไม่ตกแล้วค้างอยู่นานกว่าปกติ อาจมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 2-4 ซม. แต่น้อยรายจะถึงขนาด 5-6 ซม.แต่มันจะหายไปเอง ภายใน 1-2 เดือนหลังจากพบ”

ถ้าถุงน้ำรังไข่ไม่ได้เกิดจากการคลาดเคลื่อนการทำงานของรังไข่ ก็เกิดได้จากโรค 2 อย่างคือ1.เนื้องอกของรังไข่ ซึ่งไม่ใช่มะเร็ง (เป็นส่วนมาก)หรือเป็นมะเร็ง (เป็นส่วนน้อย) 2.เยื่อบุโพรงมดลูกขึ้นผิดที่ หรือรู้จักกันในนาม “ถุงน้ำช็อกโกแลต” ข้างในถุงเป็นเลือดที่สะสมกันอยู่จนเป็นสีน้ำตาลข้นเหมือนช็อกโกแลต เกิดจากเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญขึ้นและมีเลือดออกขังอยู่เป็นเวลานานๆ มักเกิดร่วมกับเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ในอุ้งเชิงกรานตำแหน่งอื่นๆ ซึ่งมักมีอาการปวดประจำเดือนร่วมด้วย

สำหรับอาการของผู้ป่วย คือ ปวดเสียด ปวดบิด หรือปวดถ่วง อาจทำให้เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ หากถุงน้ำมีขนาดโตก็อาจจะคลำก้อนได้ในท้อง หรือสัญญาณอื่นๆ เช่น ปวดท้องน้อยถ่ายปัสสาวะบ่อย หรือถ่ายอุจจาระลำบาก

การวินิจฉัยโรค วิธีที่ง่ายที่สุดคือตรวจด้วยอัลตราซาวด์ เป็นการตรวจเพิ่มเติมที่ทำได้ง่าย ราคาไม่แพงและให้ข้อมูลที่ดี ส่วนการรักษานั้น ถ้าถุงน้ำไม่โตมากและไม่มีอาการอะไร แพทย์อาจจะให้ติดตามดูอาการ 1-2 เดือน ถุงน้ำนั้นอาจหายไปเองได้

ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไม่ต้องรักษาอะไร เพราะเป็นจากการทำงานของรังไข่แปรปรวน ถ้าถุงน้ำใหญ่หรือมีอาการ แพทย์อาจแนะนำให้ทำการผ่าตัด การผ่าตัดวิธีไหนและผ่าตัดมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย คือ 1.ขนาดและลักษณะของถุงน้ำรังไข่ 2.อายุของผู้ป่วย 3.อาการที่มาพบแพทย์ว่าเร่งด่วนหรือไม่ 4.ความต้องการมีบุตรของผู้ป่วยในอนาคต

แม้โรคนี้จะหายเองได้ แต่เพื่อความปลอดภัยหากปวดท้องรุนแรง-ผิดปกติ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยทันที