สิงโต นำโชค โค้ชคนใหม่และเรื่องเซอร์ไพรส์
ช่วงนี้ “ชีวิตดี๊ดี” และน่าจะเรียกว่า “ชีวิตขาขึ้น” ก็นักร้องผิวเข้ม “สิงโต นำโชค” นั่นไง เพิ่งจะนั่งแท่น “โค้ชคนใหม่” รายการ “เดอะวอยซ์” (ซีซั่น 4)
โดย...แจนยูอารี ภาพ ภัทรชัย ปรีชาพานิช
ช่วงนี้ “ชีวิตดี๊ดี” และน่าจะเรียกว่า “ชีวิตขาขึ้น” ก็นักร้องผิวเข้ม “สิงโต นำโชค” นั่นไง เพิ่งจะนั่งแท่น “โค้ชคนใหม่” รายการ “เดอะวอยซ์” (ซีซั่น 4) แถมเร็วๆ นี้จะมี “ซิงเกิ้ลภาษาอังกฤษ” ส่วนเรื่องเซอร์ไพรส์ที่ทำเอาคุณพ่อลูกอ่อนยิ้มไม่หุบ คือศรีภรรยาตั้งท้อง “ลูกแฝด” แหม!!! ช่างเป็นชีวิตน่าอิจฉาซะจริง
ลูกแฝด
“ตอนผมพักงานไปประมาณ 2 เดือนครับ ผมก็พาภรรยากับลูกคนแรกกลับไปเยี่ยมคุณตาคุณยายที่อเมริกา พอกลับมาปรากฏว่าก็ได้ลูกแฝดเลย (หัวเราะ) คนก็ถามว่าทำยังไง นั่นสิ (หัวเราะ) พอนั่งย้อนนึกดู อ่อ!!! ช่วงนั้นว่าง (หัวเราะ) และบวกกับการที่ผมออกกำลังกาย ฟิตครับ แค่นี้ละครับ ไม่มีอะไรมาก
ตอนแรกก็ตกใจครับ เพราะในครอบครัวผมก็ไม่มีใครมีลูกแฝด เอาละสิ ลูกใครละเนี้ย (หัวเราะ) ก็เลยต้องกลับไปรีเช็กอีกรอบ ถึงรู้ว่าญาติแม่ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องเคยได้ลูกแฝด แต่ผมก็ยังเชื่อว่าเพราะผมฟิตและออกกำลังนะครับ” (ตีหน้าซื่อ)
ซิงเกิ้ลเพลงสากล
“เป็นโปรเจกต์พิเศษครับ เพลงอัดที่เมืองไทยนี่ล่ะ อัดที่ห้องอัดของคุณคริส อยู่แถวบางเสร่ ที่นี่มีศิลปินต่างชาติมาอัดเยอะนะ พอคุณคริสอยากได้ศิลปินไทยที่ร้องเพลงภาษาอังกฤษ เขาก็เลยติดต่อผมมาทำเพลงนี้ เป็นเพลงสากลชื่อ I Miss You เพลงนี้ก็จะไปขายที่ลอนดอนด้วยครับ
ที่ผ่านมาผมก็ได้ไปออกรายการวิทยุของบีบีซี คุยกับฝรั่งลำบากครับ (หัวเราะ) ไปกับพี่กิจ (กิจ-กิจจาศักดิ์ ตริยานนท์) โปรดิวเซอร์ผม เขาก็ช่วยแปลสิ่งที่ผมไม่เข้าใจ ก็สนุกดีครับ แล้วผมก็มีโอกาสไปเล่นคอนเสิร์ตตามที่ต่างๆ ในอังกฤษ เหมือนไปลองเล่นให้คนที่นั่นฟังกันก่อนที่เพลงจริงจะปล่อยเดือน ต.ค.นี้ครับ”
อัลบั้มใหม่
ขณะที่อัลบั้มเพลงไทยฉบับเต็ม สิงโตบอกว่ากำลังอยู่ระหว่างการทำงานอย่างเข้มข้น โดยเขายังคงมองหาแรงบันดาลใจจากสิ่งรอบตัว แนวดนตรียังไม่ทิ้งกลิ่นอายเดิม ฟังสบายๆ ป๊อปผสมเซิร์ฟ มิวสิค
“คิดเยอะครับ เพราะผมก็ออกมาแล้ว 2 อัลบั้ม มินิอัลบั้มก็มี ซิงเกิ้ลก็เคยทำละ กดดันเหมือนกันนะครับ แต่ผมก็พยายามจะหนีจากความกดดันให้ได้ อย่างที่บอกผมพักงานไป 2 เดือน พาภรรยากับลูกกลับไปอเมริกา กลับมาผมก็คิดว่าจะทำยังไงเป็นแบบไหน ก็เริ่มแต่งเพลง แต่ยังไม่ได้สักที จู่ๆ ผมก็ไปปิ๊งคำพูดของภรรยาที่ชอบพูดว่า Just have fun with it เวลาผมทำงานเครียด ภรรยาจะชอบพูดว่าก็สนุกไปกับสิ จะไปเครียดทำไม ผมก็เลยลองเอาคำนี้มาตั้งต้นในการเขียนเพลง สนุกไปกับมัน อย่าไปคิดอะไร อย่าไปกดดัน หรือคาดหวังกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น ผมสนุก คนฟังสนุก จบแค่นี้ แล้วผมก็แต่งเพลงได้ ชอบเลย”
ซิงเกิ้ลใหม่ของสิงโต ใช้ชื่อว่า P.S. I Love You จะเริ่มปล่อยให้ฟังอย่างเป็นทางการราวๆ เดือน ก.ย. ซึ่งเจ้าตัวก็ย้ำว่าสนุกมากและไม่อยากให้แฟนๆ พลาด
โค้ชใหม่ เดอะวอยซ์
แล้วการมาเป็นโค้ชเดอะวอยซ์สนุกมั้ย เราแหย่คำถามแรกกับเขา ซึ่งเขาก็รีบบอกว่าสนุกมาก ไม่ต่างอะไรกับการทำงานเพลง
“รายการอัดไปแล้วครับในรอบบลายด์ ออดิชั่น ถ้าผมให้สัมภาษณ์ก่อนอัดรายการนี่ผมว่ามันคงจะมืดมนไปหมดเลยนะครับ (หัวเราะ) เพราะผมเองก็ไม่รู้ว่ามันจะออกมาแบบไหน ที่ผมสนุกเพราะผมชอบรายการนี้อยู่แล้ว เป็นงานอีกสเต็ปหนึ่งที่ค่อนข้างท้าทายผม มันเหมือนเป็นเส้นกั้นบางๆ ระหว่างจะลุย หรือจะถอย ถ้ากลัวก็ต้องถอย ถ้าไม่กลัวก็ลุยต่อ เมื่อเขาให้โอกาส ผมก็ต้องลุยสิครับ ถอยไม่ได้แล้ว กดดันมั้ย โคตรกดดันเลย ความกดดันนั้นไม่ได้มาจากโค้ช ทีมงาน หรือผู้ชม แต่มันจากสิ่งที่ผมไม่รู้และไม่เคยทำมาก่อนต่างหาก แต่ด้วยนิสัยส่วนตัวผม ถ้ากลัวอะไรก็จะพุ่งไปหา ไม่หนีไม่ถอย ทั้งๆ ที่ก็ไม่ใช่คนที่มั่นใจตัวเองสูงเลย ในหัวก็มีนะครับจะไหวเหรอวะ จะทำได้เหรอวะ ขณะเดียวกันในหัวมันก็บอกมึงต้องไปสิ มึงต้องทำได้สิ ลองทำๆ นี่คือโอกาสที่ดีนะ”
เมื่อละทิ้งความกลัวความกังวล ตลอดจนคำถามในหัวออกไป นักร้องขวัญใจเด็กแนวก็พาตัวเองมานั่งแท่นเก้าอี้สีแดงที่มีป้ายไฟบอกชื่อเด่นหราว่าเขาคือโค้ชตัวจริง “ไม่ใช่ตัวแทน” แล้วการมาเป็นโค้ชก็ “ไม่ได้เพราะส้มหล่นใส่” เขาถูกเลือกและถูกจิ้มจากทีมงาน อันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ “ต้องเปลี่ยน” คนเก่าไปย่อมต้องมีคนใหม่
“เรื่องเป็นโค้ชนี่ผมรู้มานานละ แต่ทุกอย่างมันยังเป็นความลับอยู่ จริงๆ ทีมงานก็ให้เวลาตัดสินใจนะครับ แต่ผมตัดสินใจวันนั้นเลย (หัวเราะ) เพราะผมว่านี่คือโอกาสที่จะทำให้ผมได้เรียนรู้ได้ลองทำอะไรใหม่ๆ ผมไม่ได้มองว่าผมมาแทนโค้ชคนเก่า หรือส้มหล่นใส่ เพราะการเปลี่ยนตัวโค้ชเป็นธรรมเนียมของรายการอยู่แล้ว ที่ต่างประเทศก็เปลี่ยนโค้ชกันเป็นว่าเล่น ผมมาเป็นโค้ชผมก็เป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องมาสวมบทบาทเหมือนใคร ถึงเวลาผมก็เชื่อมโยงกับทุกอย่างและทุกคนได้ในแบบของผม
พอขึ้นไปนั่งเก้าอี้ความรู้สึกของผมมันคือการพูดภาษาเดียวกันหมด มันเป็นภาษาดนตรีที่คุยกันรู้เรื่อง ถ้าขึ้นไปคุยกับหมอนี่สิ ผมคงแย่ (หัวเราะ) เชื่อมั้ยผมสนุกจนลืมความกดดัน ปกติผมเป็นคนชอบพูดชอบคุยอยู่แล้ว ยิ่งมาพูดภาษาเดียวกัน ก็ยิ่งสนุก เจอยังไงก็คุยแบบนั้น พี่ๆ โค้ชก็มีมุข ผมก็สอดแทรกได้อย่างไม่เคอะเขิน เป็นเคมีอีกรูปแบบหนึ่งที่ตรงกัน ผมว่าคนดนตรีจะมีมุขคล้ายๆ กันนะ พอคนหนึ่งปล่อยมุขออกมา ที่เหลือจะรับมุขและส่งต่อมุขได้ มันก็เลยสนุก”
เดอะวอยซ์ ซีซั่น 4 จะเริ่มออนแอร์เทปแรกวันอาทิตย์ที่ 6 ก.ย.นี้ จากนั้นก็จะเข้าสู่ความเข้มข้นของการคัดเลือกผู้เข้าแข่งขันให้เหลือเพียงหนึ่งเดียว
“รอบถ่ายทอดสดคงไม่มีความกลัวแล้วครับ เพราะผมผ่านจุดนั้นมาแล้ว ตอนนี้สบายครับ แต่ก็ยังต้องเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ต่อไป ผมก็เป็นตัวของตัวเอง ไม่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร คิดแบบนี้มันก็ช่วยได้เยอะนะครับ ส่วนผู้ชมผมก็ห้ามความคิดไม่ได้หรอก เขาจ่ายค่าไฟเขาเป็นแฟนรายการเขาก็มีสิทธิคาดหวังในตัวโค้ชคนใหม่ ผมก็น้อมรับและยอมรับคำวิจารณ์ แต่จะให้อ่านมั้ย ไม่รีบอ่านแน่ๆ ครับ (หัวเราะ) เพราะเดี๋ยวไม่มีสมาธิทำงาน”