สุกฤตยา สาธิตภิญโญ แรงบันดาลใจในลายเส้น
เรานัดเจอสาวร่างเล็ก เยลลี่-สุกฤตยา สาธิตภิญโญ เพราะได้ข่าวว่าเธอคว้ารางวัลการประกวดสติ๊กเกอร์ไลน์ (LINE) ในโครงการ Toyota It’s Mine
โดย...กองทรัพย์ ภาพ ทวีชัย ธวัชปกรณ์
เรานัดเจอสาวร่างเล็ก เยลลี่-สุกฤตยา สาธิตภิญโญ เพราะได้ข่าวว่าเธอคว้ารางวัลการประกวดสติ๊กเกอร์ไลน์ (LINE) ในโครงการ Toyota It’s Mine ซึ่งผลงานของเธอกำลังจะถูกพัฒนาและนำไปออกแบบเป็นไลน์สติ๊กเกอร์ต่อไป เยลลี่ออกตัวว่าเป็นคนพูดน้อย และติดจะขี้อาย แต่เพราะยิ้มที่ส่งมาให้เรื่อยๆ ทำให้เราลืมไปเลยว่าเธอบอกว่าพูดไม่เก่ง
เยลลี่ เริ่มเล่าว่า เธอจบปริญญาตรีจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่งานอดิเรกที่ชื่นชอบและทำไม่เคยหยุดเลยก็คือการวาดรูป ดังนั้นเมื่อเรียนจบบัญชีแล้ว เธอจึงพลิกเส้นทางเดินด้วยการเข้าเรียนแฟชั่นที่ Bunka Fashion Academy เพื่อทดลองเดินในอีกเส้นทางหนึ่งที่คิดว่าจะอยู่กับสิ่งนี้ไปอีกนาน “เยลลี่ชอบวาดรูปตั้งแต่เด็ก แต่เรียนบัญชีเพราะว่าเราเรียนได้ แต่ถามว่าชอบขนาดนั้นไหม ก็ระดับหนึ่ง แต่มันอาจจะยังไม่ใช่ที่สุด ก็เลยไปเรียนออกแบบเพิ่มเติม ซึ่งระหว่างที่เราเรียนก็เห็นโครงการประกวดของโตโยต้าพอดี ก็เลยคิดว่าอยากลองส่งประกวดดูบ้าง ซึ่งก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ สำหรับตัวเอง”
การออกแบบสติ๊กเกอร์ไลน์เหมือนจะง่าย แต่สิ่งที่ยากสำหรับสาวร่างเล็กคนนี้ก็คือ ไม่ใช่ว่าอยากวาดอะไรก็วาด “แต่ตอนแรกเยลลี่ก็เป็นแบบนั้น แต่สุดท้ายเราก็ต้องการคอนเซ็ปต์ที่ชัดเจน ก็เลยไปทำรีเสิร์ช ทำความรู้จักรถแต่ละรุ่นของโตโยต้าว่ามีจุดเด่นอย่างไร แล้วแตกคาแรกเตอร์รถออกมา จากนั้นค่อยเริ่มวาด ซึ่งวิธีการนี้เยลลี่ว่าใช้ได้ดีกับงานทุกแบบ ไม่เฉพาะกับงานออกแบบไลน์ เสื้อผ้าก็เหมือนกัน”
ดูเหมือนผลงานของเยลลี่จะยังไม่หมดเท่านี้ บทสนทนาของเรายังคงดำเนินไปเรื่อยๆ จนรู้ว่าเธอชื่นชอบการออกแบบจนถึงขนาดเคยขอเข้าไปฝึกงานในสำนักพิมพ์ผีเสื้อในฐานะนักออกแบบ แต่สิ่งที่สาวน้อยคนนี้ได้กลับมามากกว่าสิ่งที่เธอต้องการ
“ตอนเรียนหนังสือเราก็อยากลองทำงานหลายๆ อย่างเพื่อให้เรารู้ว่าเราชอบสิ่งนั้นจริงๆ หรือเปล่า ซึ่งเยลลี่มีโอกาสไปฝึกงานทั้งในบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) และงานในสำนักพิมพ์ผีเสื้อ ซึ่งเยลลี่ได้อะไรกลับมาเยอะมาก อย่างในสำนักพิมพ์เราได้เรียนรู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อน ได้เพิ่มเติมเรื่ององค์ประกอบภาพและการจัดวาง เยลลี่ได้ลองออกแบบกระดาษที่ใช้ห่อปกหนังสือ ได้นั่งห่อปกหนังสือทีละเล่ม รับรู้ถึงความใส่ใจจากคนทำหนังสือถึงมือผู้อ่าน เห็นความละเมียดละไมในการทำงาน ยิ่งรู้สึกว่ามันมีอะไรมากกว่างานออกแบบ ก็เลยรู้เลยตอนนั้นว่าสังคมแบบไหนที่เหมาะกับเรา
ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่เราได้จากห้องเรียนในมหาวิทยาลัยก็เป็นประโยชน์มากนะคะ สำหรับเยลลี่แล้วการเรียนไฟแนนซ์มาทำให้เราคิดมากขึ้นเวลาออกแบบ มันเหมือนจะไม่เกี่ยวกัน แต่มันก็เชื่อมโยงกันอยู่ อย่างเรื่องรีเสิร์ช การสำรวจความต้องการของตลาดก็เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนจากห้องเรียน หรือการออกแบบเพื่อขายเราก็ต้องดูกลุ่มลูกค้าเป็นหลัก จะอาร์ตมากก็ไม่ได้ มันต้องอยู่ตรงกลาง ส่วนอีกเรื่องหนึ่งก็คือเราจะติดนิสัยเรื่องการลงทุน ซึ่งเป็นมาตั้งแต่เรียนหนังสือแล้ว ดังนั้นไม่ว่าตอนนี้หรือในอนาคตเราจะทำงานด้านไหน นิสัยเรื่องการแบ่งงบค่าใช้จ่ายก็ติดตัวเราไปแล้ว ถือว่าเราจะได้เปรียบในเรื่องการจัดการ ดีไซเนอร์ที่ทำบัญชีได้หายากนะคะ” เยลลี่ยิ้มตาหยี
เราถามไปว่าเงินรางวัลที่ได้ 2 แสนบาท เธอนำไปทำอะไร? “เยลลี่แบ่งเป็นสามส่วน อย่างแรกก็คือแบ่งทำบุญ ให้คุณแม่ แล้วก็เอาไปลงทุนต่อยอด ซึ่งเยลลี่ว่าเรายังไม่จำเป็นจะต้องใช้เงินก้อนนี้ในตอนนี้ ซึ่งทั้งสามส่วนเยลลี่ว่าเงินที่กระจายไปจะเป็นประโยชน์ในทุกส่วน”
อีกไม่นานเราจะได้โหลดสติ๊กเกอร์ไลน์ Toyota It’s Mine ซึ่งเป็นลายเส้นของเยลลี่-สุกฤตยา กันแล้ว ว่าที่ดีไซเนอร์คนนี้ฝากทิ้งท้ายว่า “เยลลี่ว่าเดี๋ยวนี้มีเวทีประกวดต่างๆ เยอะมาก ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโอกาสให้น้องๆ หรือคนที่มีฝีมือได้แสดงตัวตนและโชว์ของ ถ้าเราได้ลงประกวดสักครั้งมันจะช่วยสร้างความมั่นใจให้เรา ต่อให้เราไม่ชนะ เราก็จะได้เห็นว่ายังมีคนมากมายที่มีฝีมือ และเราจะต้องพัฒนาตัวเองไปในทางไหน”
แต่สำหรับเยลลี่แล้ว เธอตั้งเป้าไว้ว่าอยากจะโลดแล่นในเส้นทางแฟชั่นในฐานะดีไซเนอร์ ซึ่งอาจจะต้องรอติดตาม...