posttoday

ใช้ตาเกินพอดี เสี่ยงโรค‘ตะคริวตา’

06 พฤศจิกายน 2561

ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยรอบตา ตาพร่า โฟกัสไม่ได้ บางครั้งมีคลื่นไส้อาเจียน ถ้านี่คืออาการที่คุณต้องเจอบ่อยๆ รู้ไว้เลยว่านี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ

เรื่อง พุสดี ภาพ Pixabay

ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยรอบตา ตาพร่า โฟกัสไม่ได้ บางครั้งมีคลื่นไส้อาเจียน ถ้านี่คืออาการที่คุณต้องเจอบ่อยๆ รู้ไว้เลยว่านี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ที่แค่เป็นแล้วทน หรือมองข้ามได้ โดยเฉพาะเหล่ามนุษย์วัยทำงานที่ต้องจดจ่ออยู่หน้าจอหรือเอกสารกองโตนานๆ

หากเกิดอาการดังกล่าวขึ้นอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าดวงตาของคุณกำลังมีปัญหา โดยมีสาเหตุมาจากกล้ามเนื้อรอบลูกตาและในลูกตาเกร็งเป็นตะคริว เพราะใช้สายตาติดต่อกันเป็นเวลานานเกินไป

พญ.อารดา มกรพงศ์ จักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจอประสาทตาและน้ำวุ้นตา โรงพยาบาลพญาไท 2 แนะนำข้อควรปฏิบัติเมื่อเกิดอาการปวดเมื่อยรอบตาว่า หากเกิดอาการข้างต้นให้พักการใช้สายตา และเมื่อจำเป็นต้องใช้สายตาอีกให้ใช้สายตาเป็นเวลานานประมาณ 30 นาที และหลับตาพักไว้ 5 นาที

ใช้ตาเกินพอดี เสี่ยงโรค‘ตะคริวตา’

กรณีที่ใช้สายตาดูคอมพิวเตอร์จอใหญ่ อ่านหนังสือ ดูทีวี แต่หากต้องดูมือถือจอเล็ก ให้ใช้สายตา 10 นาทีและควรหลับตาพักไว้ 5 นาที แล้วจึงกลับมาใช้สายตาใหม่อีกครั้งสลับกันไป

“สำหรับผู้ที่มีอาการรุนแรง รักษาด้วยวิธีเบื้องต้นด้วยตัวเองแล้วไม่หาย ควรมาพบจักษุแพทย์เพื่อรับการรักษาต่อไป โดยทั่วไปจักษุแพทย์จะทำการรักษาสองแบบ คือ ให้กินยาและหยอดยาดูก่อน หรือในกรณีที่คนไข้ต้องการหายเร็วๆ จะทำการหยอดยาเพื่อคลายกล้ามเนื้อตา โดยการขยายรูม่านตา หลังจากนั้นคนไข้จะมีตาพร่ามัว 4-6 ชั่วโมง จึงไม่สามารถขับรถและทำงานได้”

ถามว่าจะรู้ได้อย่างไรว่าเมื่อไหร่อาการรุนแรง จนต้องรีบมาพบแพทย์ พญ.อารดา กล่าวว่า ให้สังเกตความผิดปกติของตัวเอง หากมีอาการแสบเคืองตาบ่อยๆ หยอดน้ำตาเทียมก็ไม่หาย ควรมาพบจักษุแพทย์เพื่อให้ตรวจตาดูก่อน เนื่องจากสาเหตุส่วนใหญ่มักจะเกิดจากมีภูมิแพ้ในตา ซึ่งการรักษาไม่ยุ่งยาก ให้ใช้ยาภูมิแพ้หยอดตาอาการจะค่อยๆ ดีขึ้น

“แต่ถ้าเห็นเงา หรือมีจุดดำๆ ลอยไปมา คล้ายมียุงบิน หรือเมฆหมอกลอยไปมา หรือมีแสงไฟกะพริบ แสงไฟแลบในลูกตา ควรมาพบจักษุแพทย์ เพื่อขยายรูม่านตาตรวจในลูกตาอย่างละเอียด เพราะอาการดังกล่าวนำไปสู่ภาวะจอประสาทตาฉีกขาดและหลุดลอกจนมองไม่เห็นในที่สุด หากคนไข้มารักษาเร็ว จะทำให้การรักษาไม่
ยุ่งยากมาก”

ถึงโลกใบเดิมจะถูกเทคโนโลยีเหยียบคันเร่งให้หมุนไวขึ้น แต่อย่ามัววิ่งไปข้างหน้าให้ทันโลก จนลืมใส่ใจสุขภาพตัวเอง