posttoday

สิ่งล้ำค่าบนความสูญเสีย(1)

27 มีนาคม 2554

ณ วินาทีนี้ คงไม่มีข่าวชิ้นไหนที่ได้รับความสนใจจากสื่อทุกแขนงเท่ากับการรายงานความเคลื่อนไหวของเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในญี่ปุ่นที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา แน่นอนว่า ความสูญเสียทั้งทรัพย์สินและชีวิตของผู้เคราะห์ร้ายจำนวนมากย่อมเพิ่มขึ้นจนน่าใจหาย ถือเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ครั้งหนึ่งของชาวโลกที่เกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว แม้แต่ชาวจีนที่กำลังมีข้อพิพาทเรื่องเกาะเตี้ยวอวี๋กับทางญี่ปุ่น (เกาะเซนกากุ) ยังพักยกเรื่องการเมือง หันมาช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างขะมักเขม้น

ณ วินาทีนี้ คงไม่มีข่าวชิ้นไหนที่ได้รับความสนใจจากสื่อทุกแขนงเท่ากับการรายงานความเคลื่อนไหวของเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในญี่ปุ่นที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา แน่นอนว่า ความสูญเสียทั้งทรัพย์สินและชีวิตของผู้เคราะห์ร้ายจำนวนมากย่อมเพิ่มขึ้นจนน่าใจหาย ถือเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ครั้งหนึ่งของชาวโลกที่เกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว แม้แต่ชาวจีนที่กำลังมีข้อพิพาทเรื่องเกาะเตี้ยวอวี๋กับทางญี่ปุ่น (เกาะเซนกากุ) ยังพักยกเรื่องการเมือง หันมาช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างขะมักเขม้น

 

สิ่งล้ำค่าบนความสูญเสีย(1)

ภาพการไหลทะลักของคลื่นยักษ์สึนามิที่กวาดต้อนบ้านเรือน เรือประมง สาธารณูปโภคของพื้นที่บริเวณชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะฮอนชู สร้างความสะเทือนใจให้แก่ผู้ที่พบเห็นอย่างมาก ชาวจีนเองก็รู้สึกสะท้อนใจกับภาพเหตุการณ์เหล่านี้ไม่น้อย เพราะเพิ่งผ่านพ้นวิกฤตแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เวิ่นชวน มณฑลเสฉวน (2008) กับเหตุแผ่นดินไหวในอวี้ซู่ มณฑลชิงไห่ (2010) สำหรับผู้ที่เคยผ่านประสบการณ์อันแสนขมขื่นเช่นนี้ ย่อมรู้ซึ้งถึงความยากลำบากในการผ่านพ้นบททดสอบราคาแพงที่เกิดจากภัยธรรมชาติว่ามีความยากเย็นเพียงใด

ทันทีที่ข่าวดังกล่าวประกาศสู่ชาวโลก ประธานาธิบดี หูจิ่นเทา และนายกรัฐมนตรี เวินเจียเป่า ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการประชุมสภาวิสามัญประจำปีของจีน ก็แสดงความเป็นห่วงเป็นใยชาวญี่ปุ่นด้วยการยกหูโทรศัพท์ไปกล่าวแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับจักรพรรดิอากิฮิโต ขณะที่นายกฯ เวินก็ต่อสายไปยังนายกรัฐมนตรีนาโอโตะ คัง ของญี่ปุ่น เพื่อแสดงความเสียใจเช่นกัน

หากผู้นำจีนหยุดอยู่เพียงแค่ความเคลื่อนไหวดังกล่าว ก็ดูเหมือนเป็นการทำตามมารยาทเท่านั้น

แต่ความจริงที่น่าชื่นชมก็คือ ท่าทีของรัฐบาลจีนที่มีต่อชาวญี่ปุ่นมิได้หยุดอยู่เพียงแค่ลมปาก หลังเหตุการณ์ผ่านพ้นไปเพียง 3 วัน นายกรัฐมนตรีเวินเจียเป่าแสดงความอาทรที่มีต่อชาวญี่ปุ่นด้วยการตั้งคำถามในห้องสัมภาษณ์ท่านช่วงวันปิดการประชุมสภาว่า ในที่นี้ มีผู้สื่อข่าวชาวญี่ปุ่นอยู่หรือไม่ ในฐานะตัวแทนของรัฐบาลจีนและประชาชนชาวจีนขอส่งผ่านความห่วงใยไปยังชาวญี่ปุ่นและขอไว้อาลัยให้แก่ผู้ประสบภัยครั้งนี้ โดยเน้นย้ำว่า รัฐบาลจีนจะให้ความช่วยเหลือแก่พื้นที่ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง แน่นอนว่า “การถามไถ่ทุกข์สุข” ที่เกิดขึ้นอย่างเหนือความคาดหมายเช่นนี้ ย่อมสร้างความรู้สึกตื้นตันใจให้แก่ผู้สื่อข่าวจากนานาประเทศที่อยู่รวมกันในห้องประชุม

การให้ความสนอกสนใจอย่างถึงที่สุด ความอาทรที่มีอย่างเต็มเปี่ยม รวมไปถึงท่าทีทางการทูตที่ประเทศจีนมีต่อประเทศญี่ปุ่นเช่นนี้ถือว่าพบเห็นได้ยากในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับมิตรประเทศ “ความอาทรจากชาวจีน” ถือเป็นพลังสำคัญที่ช่วยให้ผู้ประสบภัยในญี่ปุ่นมีกำลังใจที่จะเผชิญหน้ากับอุปสรรคนานัปการที่กำลังทดสอบพวกเขาอยู่

 

สิ่งล้ำค่าบนความสูญเสีย(1)

ชาวจีนทุกคนรู้ดีว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับญี่ปุ่นในช่วงหลายปีมานี้ไม่ค่อยสู้ดีนัก เพราะหากย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์ของทั้งสองชาติแล้วจะพบว่า ชาวจีนถูกชาวญี่ปุ่นรังแกและปฏิบัติต่ออย่างโหดเหี้ยมทารุณจนถึงกับเสียเลือดเสียเนื้อจำนวนนับไม่ถ้วน ไม่นับรวมการกีดกันทางการค้าและความขัดแย้งเรื่องดินแดนทางชายฝั่งทะเลที่ยังเป็นประเด็นร้อนทางการทูตของสองประเทศอยู่ในขณะนี้ หลายคนเอือมระอากับการเดินหมากทางการเมืองของรัฐบาลญี่ปุ่น ถึงกับมีการแบนสินค้าญี่ปุ่นกันเลยก็มี แต่เมื่อมหันตภัยที่คร่าชีวิตประชาชนญี่ปุ่นตาดำๆ อย่างไร้ความปรานีอุบัติขึ้น ในฐานะที่เป็นเพื่อนมนุษย์ที่มีเลือดมีเนื้อและมีหัวใจ ย่อมต้องรู้สึกเศร้าสลดและเห็นอกเห็นใจชาวญี่ปุ่น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงชาวจีน ซึ่งโดยพื้นฐานได้รับการปลูกฝังคุณธรรมตามหลักลัทธิหยูของท่านขงจื๊อให้เป็นผู้ที่ตั้งบนความเมตตาและสัจจะ พวกเขาเลือกที่จะหยิบยื่นความช่วยเหลือให้แก่ชาวญี่ปุ่นด้วยความเต็มใจ

ครั้งหนึ่งในเหตุแผ่นดินไหวที่เวินชวน หน่วยกู้ภัยจากญี่ปุ่นเป็นชาติแรกที่เข้าพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ภาพที่พวกเขาเข้าแถวเรียงหน้ากระดานเพื่อยืนไว้อาลัยให้แก่ร่างผู้เคราะห์ร้ายยังคงติดตาชาวจีนอย่างไม่มีวันลืมเลือน การกระทำเช่นนี้ถือเป็นการแสดงความเคารพต่อผู้ประสบภัยอย่างไร้ข้อจำกัดในเรื่องเชื้อชาติ นี่ยังไม่รวมถึงเงินช่วยเหลือจำนวน 500 กว่าล้านเยนที่รัฐบาลญี่ปุ่นส่งมาเป็นกองหนุน ถือเป็นเงินบริจาคที่มากเป็นลำดับสองรองจากประเทศซาอุดีอาระเบีย ในส่วนของภาคเอกชน ร้านสะดวกซื้อ 711 ของญี่ปุ่นก็มีกล่องบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยวางไว้ทุกสาขา รวมไปถึงบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างโซนี่ พานาโซนิค ที่บริจาคเงินช่วยเหลืออย่างไม่ขาดสาย ตัวเลขไม่เป็นทางการของเงินบริจาคภาคเอกชนของญี่ปุ่นที่ส่งมาช่วยเหลือเหตุแผ่นดินไหวในเสฉวนครั้งนั้นสูงถึง 1,200 ล้านเยน ความช่วยเหลือเหล่านี้ถือเป็นความอาทรอย่างไร้พรมแดนของชาวญี่ปุ่นที่มีต่อชาวจีน แม้ว่าเราไม่สามารถตีค่าน้ำใจได้จากมูลค่าของเงินช่วยเหลือที่ส่งมา แต่อย่างน้อยก็เป็นธารน้ำใจที่ช่วยเติมพลังให้แก่ผู้ที่ตกอยู่ในความรู้สึกหดหู่และสิ้นหวัง

แล้วจะไม่ให้ชาวจีนแสดงน้ำใจตอบแทนผู้ที่เคยส่งมอบกำลังกายและกำลังใจให้แก่ผู้ประสบภัยชาวจีนในยามยากได้อย่างไร!