เปิดใจ"สุเทพ"จากหน้า1บางกอกโพสต์
"สุเทพ เทือกสุบรรณ" เปิดใจก้าวต่อไปของกปปส. และ การพูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
โดย...เนาวรัตน์ สุขสำราญ
เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ได้ตีพิมพ์บทสนทนาของ "สุเทพ เทือกสุบรรณ" เลขาธิการกปปส. ระหว่างงานเลี้ยงพบปะ มวลชนภายใต้ชื่อ "กินข้าวเย็นกับกำนันสุเทพ" เป็นครั้งแรก โดยมีผู้เข้าร่วมเกือบ 100คนที่ที่แปซิฟิคคลับ ย่านสุขุมวิท
สุเทพ เปิดใจเล่าถึงเบื้องหลังของการยึดอำนาจ และ ก้าวต่อไปของ กปปส. โดยได้ ยอมรับเป็นครั้งแรกว่า มีการพูดคุยผ่านไลน์กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกและทีมงานอย่างต่อเนื่อง
"ก่อนที่จะมีการประกาศกฏอัยการศึกของกองทัพ ท่าน(ประยุทธ์) ก็บอกผมว่า คุณสุเทพและมวลมหาเหนื่อยมามากแล้ว ต่อจากนี้ไป จะเป็นภาระหน้าที่ของกองทัพ ที่จะรับไม้ต่อ"
สุเทพ ยังยอมรับอีกว่า ได้คิดและปรึกษาหารือร่วมกันกับ พล.อ.ประยุทธ์ มาตั้งแต่ปี 2553 (มีการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง)ว่าจะต้องต่อสู้กับระบอบทักษิณ และร่วมกันหาทางปฏิรูปประเทศ ต้านคอร์รัปชั่น สลายสีเสื้อและความขัดแย้ง
เขายังบอกอีกว่า การเคลื่อนไหวของ มวลมหาประชาชน ถือเป็น พลังของประชาชนครั้งแรกที่ยิ่งใหญ่ ทำให้เห็นว่า ประชาชนรักกันและร่วมมือกันเหนียวแน่น คนใน กทม. ชื่นชมคนต่างจังหวัดที่ละทิ้งบ้าน มานอนกลางดิน ยอมลำบากอดทน เพื่อร่วมต่อสู้ ขณะที่ คนต่างจังหวัดชื่นชมคนกทม. ว่า ยอมที่จะลำบากมาร่วมต่อสู้กับ มวลมหาข้างถนน
"เราใช้เงินไปสำหรับการเคลื่อนไหวกว่า 6 เดือนที่ผ่านมา เกือบ 1,400 ล้านบาท จำนวน 400 ล้านบาท มาจากครอบครัว และเครือข่ายเพื่อนฝูงของแกนนำ ส่วนอีกเกือบ 1,000 ล้าน มาจากการบริจาคและสนับสนุนของ มวลมหาประชาชน ที่ต้องการเห็นบ้านเมืองมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น"
สุเทพกล่าวถึงการร่วมรับประทานอาหารครั้งนี้ว่า เดิมทีตั้งใจจะขายบัตร เพื่อนำเงินรายได้ ช่วยเหลือ ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ทุพพลภาพ และเสียชีวิต ที่เหลืออยู่ แต่เพื่อมิให้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ลำบากใจ ในการที่จะจัดให้มีการชุมนุมพบปะกันจึงยกเลิกงานดังกล่าว แต่บรรดา ผู้ที่สนับสนุนและร่วมต่อสู้กันเรียกร้องที่จะให้มีการพบปะ พูดคุย และ ร่วมทำกิจกรรมเพื่อบ้านเมือง จึงเป็นที่มาของ การร่วมกันก่อตั้งเป็น มูลนิธิ มวลมหาประชาชน เพื่อการปฏิรูปประเทศ โดยเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.ผู้เข้าร่วมทุกคนพร้อมใจกันบริจาคเป็นทุนตั้งต้นในการก่อตั้ง หลังจากหักค่าใช้จ่ายการรับประทานอาหารแล้ว ก็เหลือกองทุนตั้งต้นจำนวนหนึ่ง และ จะจัดให้มีการพบปะ ร่วมรับประทานอาหารเช่นนี้กันทุกเสาร์ โดยจะใช้ แปซิฟิคคลับ เป็นที่ทำงานและที่ตั้งของมูลนิธิ เนื่องจากไม่ยุ่งเกี่ยวและไม่เล่นการมืองอีกต่อไปแล้ว
สุเทพ ระบุว่า สิ่งที่ มูลนิธิจะดำเนินการ นอกจากการช่วยเหลือ เยียวยา ผู้บาดเจ็บ ทุพพลภาพ และทายาท ซึ่งจะต้องดำเนินการช่วยเหลือไปตลอดในรูปแบบมูลนิธิก็จะมีการนำ ข้อเสนอ ข้อสรุปตลอดจนแนวทางของ กปปส. ที่ร่วมเคลื่อนไหวในการปฏิรูปแต่ละหัวข้อนำเสนอต่อ คสช.
"นับจากนี้ไปเราก็เหมือนกับ องค์กรเอ็นจีโอ ที่จะเคลื่อนไหว ทำวิจัย ระดมความคิดเห็น และข้อเสนอต่างๆ นำสู่ คสช. ในนามมวลมหาประชาชนไม่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง"
สุเทพ บอกว่า ที่ผ่านมา คสช.ก็รู้ว่า มวลมหาประชาชน เคลื่อนไหว เพื่อจุดประสงค์อะไรบ้าง เพราะเรากดดันเขามาตลอด ที่ให้ ข้าราชการ ให้ทหาร ออกมาแสดงพลัง หลังจากประชาชนออกมากันเป็นจำนวนมากแล้ว และเมื่อ คสช.มารับหน้าที่ เขาก็นำข้อเสนอ และแนวทางหลายๆอย่างของ เราไปดำเนินการแก้ไขปัญหาของประเทศ เช่น แก้ปัญหาของชาวนา
"ขอให้พวกเราทุกคนช่วยกัน สนับสนุน การทำงานของ คสช. ในการก้าวไปสู่การปฏิรูปประเทศ แก้ไขปัญหาทุจริตคอรัปชั่น ให้กำลังใจ เพราะนับจากนี้ไป เมื่อหมด ฮันนีมูนพีเรียด คสช. ก็จะต้องเผชิญหากับแรงกดดันหลายๆอย่าง ที่ผ่านมา คสช. มารับสานต่อ งานและการเคลื่อนไหว ตลอดจนข้อเสนอของ มวลมหาประชาชน ซึ่งเขาพร้อมรับฟังข้อเสนอทุกอย่างและให้เราเข้าไปมีส่วนนำเสนอ"
สุเทพกล่าวว่า นับจากนี้จะใช้ แปซิฟิคคลับ เป็น สถานที่ทำงาน พบปะ และ หารือ ข้อเสนอ แนวทาง ที่จะร่วมสนับสนุนทุกภาคส่วนนำไปสู่การปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆ รวมทั้งจะมีการเดินสายไปรับฟังความเห็น เยี่ยมเยียน กปปส. ในต่างจังหวัดทุกพื้นที่ ในนามของมูลนิธิฯและเชิญชวนพี่น้องมวลมหาทุกคน มาร่วมกิจกรรมที่ไม่ใช่การเดินขบวนหรือการชุมนุม