191 คุมตัว โมฮัมหมัด สอบเค้นต่อ
ตำรวจ 191 คุมตัว โมฮัมหมัด สอบเค้นต่อ ที่ บชน. หลังให้การภาคเสธ เตรียมนำตัวฝากขัง 22 ก.พ.
ตำรวจ 191 คุมตัว โมฮัมหมัด สอบเค้นต่อ ที่ บชน. หลังให้การภาคเสธ เตรียมนำตัวฝากขัง 22 ก.พ.
เวลา 08.45 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พ.ต.อ.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผกก.สายตรวจ (191) บก.สปพ. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ กก.สายตรวจ บก.สปพ. จำนวน 10 นาย ควบคุมตัวนายโมฮัมเหม็ด ฮาซาอิ อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาชาวอิหร่าน ออกจากห้องควบคุมผู้ต้องขังกองบังคับการกองปราบปราม (บก.ป.) เพื่อนำมาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยนาย ฮาซาอิ มีสีหน้าเรียบเฉย แต่สภาพค่อนข้างอิดโรย สวมเสื้อโปโลลายสีขาว นุ่งกางเกงขาสั้นดำ สวมรองเท้าแตะ ขึ้นมาที่ห้องสำนักงานของ พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. ชั้น 2 ซึ่งมีประตูจากด้านในทะลุไปยังห้องประชุมปารุสกวัน 2 เพื่อทำการสอบสวนเพิ่มเติม โดยมีล่ามและทนายความร่วมด้วย
จากนั้น เวลา 09.00 น. พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีระเบิดชาวอิหร่าน พร้อมด้วยนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ และชุดพนักงานสอบสวน บก.น.5 สน.คลองตัน ประมาณ 10 นาย ร่วมกันทำการสอบปากคำนายฮาซาอิอีกครั้ง หลังจากมีการนำตัวมาจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เพื่อสอบปากคำไปแล้วเมื่อวานนี้ (วันที่ 20 กุมภาพันธ์) ขณะเดียวกันที่ห้องประชุมปารุสกวัน 1 ซึ่งอยู่ติดกัน พล.ต.อ.ปานศิริ ได้เรียกประชุมชุดสืบสวน ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด(อีโอดี) บก.สส. กก.สส.บก.น.5 และฝ่ายสืบสวน สน.คลองตัน เพื่อรายงานความคืบหน้าของคดี
พล.ต.อ.ปานศิริ เปิดเผยภายหลังเดินออกจากห้องประชุม ก่อนร่วมทำการสอบสวนนายฮาซาอิ ว่า สำหรับกรณีสัญลักษณ์สติ๊กเกอร์ “SEJEAL” ซึ่งมีการติดในพื้นที่ย่านสุขุมวิทนั้น เรื่องนี้ได้ให้บช.น. โดย พล.ต.ท.วินัย ซึ่งร่วมประชุมมอบให้ กองบังคับการสืบสวน (บก.สส.บช.น.) ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสันติบาล (บช.ส.) ตรวจสอบในเรื่องนี้ เนื่องจากพบสติ๊กเกอร์ตัวนี้ในห้องพักของผู้ต้องหาที่มีการออกหมายจับและใต้เบาะรถจักรยานยนต์ ส่วนกระแสข่าวที่ว่าพบสารที่อาจจะเป็นส่วนประกอบระเบิดภายในห้องพักของนาง ไลล่า โรฮานิ ที่อาคารนาซ่าทาวเวอร์ ถนนรามคำแหง ยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบอยู่
เมื่อถามว่าที่สอบปากคำนายฮาซาอิ เพิ่มเติมนั้น มีประเด็นที่แตกต่างจากเมื่อวานนี้หรือไม่ พล.ต.อ.ปานศิริกล่าวว่า ในคำให้การขอให้อยู่ในสำนวนการสอบสวน คงไม่สามารถนำมาบอกได้ โดยผู้ต้องหายังให้การภาคเสธ แบ่งรับแบ่งสู้ในเรื่องนี้อยู่ ซึ่งในการรวบรวมพยาน หลักฐาน ทาง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. ให้ทางพนักงานสอบสวน รวบรวมพยาน หลักฐานให้ละเอียดรอบคอบ ทั้งพยานบุคคล พยานวัตถุที่พบในที่เกิดเหตุ พยานเอกสาร ที่ได้บ้านเกิดเหตุ และจุดต่างๆที่ผู้ต้องหาไปพักและเกี่ยวข้องอยู่
“ ขณะนี้ยังไม่มีการออกหมายจับเพิ่มเติมนอกจาก 5 คนก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม หากการสอบสวนพบว่ามีบุคคลที่เกี่ยวข้อง และเรามีพยานหลักฐานที่สมบูรณ์ก็ต้องดำเนินการ”
พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวอีกว่า เรื่องการขอตัวนายมาซุด ในส่วนนี้ ผบ.ตร. และตนก็ประสานอัยการตลอด เมื่อวานนี้ทางอัยการสูงสุดก็กำลังดำเนินการอย่างเต็มที่ แต่เท่าที่ทราบมา เรื่องการขอตัวอยู่ที่กระทรวงการต่างประเทศแล้ว ซึ่งต่อไปจะต้องประสานต่อไปยังมาเลเซีย โดยตนไม่ทราบว่าต้องใช้ระยะเวลานานเท่าใด