นายกฯเปิดงาน7วัน77จังหวัดสงกรานต์ปลอดภัย
นายกรัฐมนตรีเปิดงาน 7 วัน77 จังหวัดสงกรานต์ปลอดภัย สั่งเอ็กซ์เรย์ทุกพื้นที่คุมเข้มเจ็บ-ตาย
นายกรัฐมนตรีเปิดงาน 7 วัน77 จังหวัดสงกรานต์ปลอดภัย สั่งเอ็กซ์เรย์ทุกพื้นที่คุมเข้มเจ็บ-ตาย
ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบนโยบายการป้องกันอุบัติเหตุทางถนน และเปิดการรณรงค์ “7 วัน 77 จังหวัด สงกรานต์ปลอดภัย” โดยมีผู้บริหารส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวม 10 หน่วยงาน อาทิ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมชั้นปลาย ปตท. จำกัด(มหาชน) และ ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการ สสส. เข้าร่วมรับมอบนโยบาย และรับมอบธงสัญลักษณ์รณรงค์สงกรานต์ปลอดภัย และร่วมขบวนรณรงค์บริเวณรอบทำเนียบรัฐบาลด้วย
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า รัฐบาลกำหนดให้ความปลอดภัยทางถนนเป็นวาระแห่งชาติ ภายใต้นโยบาย “7 วัน 77 จังหวัด สงกรานต์ปลอดภัย 2555” และขอให้ผู้บริหารหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน และองค์กรภาคีที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันดำเนินมาตรการอย่างเข้มข้นในการลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุจราจรให้เหลือน้อยที่สุด โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ตั้งเป้าลดอุบัติภัย และความสูญเสียจากอุบัติเหตุจราจรให้เกิดขึ้นจริง เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย “ทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน” ที่ประเทศไทยประกาศไว้ว่า จะลดการตายบนท้องถนนลงครึ่งหนึ่งในทศวรรษนี้(2554-2563) ถือเป็นเป้าหมายที่ท้าทายทุกหน่วยงาน ดังนั้นขอให้เร่งรัดดำเนินงานเป็นพิเศษ ดังนี้ 1. “เอ็กซเรย์ทุกพื้นที่” โดยทุกตำบล อำเภอ จังหวัด ต้องรู้ “จุดเสี่ยง หรือ ปัจจัยเสี่ยง” และมีระบบข้อมูลในแต่ละระดับ รวมทั้งมีพัฒนาการการแก้ไขปัญหา ซึ่งหากพื้นที่มีพัฒนาการดี นอกจากช่วยรักษาชีวิต และทรัพย์สินแล้ว ก็ควรได้รับการยกย่องเชิดชูและตอบแทนจากรัฐบาลและสังคม ซึ่งดิฉันจะขอติดตามพัฒนาการรายพื้นที่ของปีนี้ต่อไป
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า 2. ขยายปีแห่งการรณรงค์สวมหมวกนิรภัยไปในปี 2555-2556 ตั้งเป้าเพิ่มอัตราผู้สวมหมวกนิรภัยทั้งผู้ขับขี่และผู้ซ้อน อย่างน้อยร้อยละ 20 ของทั้งประเทศและรายจังหวัด รวมทั้งสถานที่ราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถานศึกษา และสถานประกอบการ มีนโยบายตรวจตราการสวมหมวกนิรภัย 100% ในพื้นที่และบุคลากรของตนอย่างจริงจัง 3. บังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 อย่างเคร่งครัด อาทิ ห้ามขายให้เด็กต่ำกว่า 20 ปี, ห้ามดื่มบนถนนสาธารณะและยานพาหนะ และการเพิ่มบทลงโทษผู้ปฏิเสธการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ ให้ถือว่า “เมา” ทุกราย และ 4. สนับสนุนให้นำเทคโนโลยีตรวจจับความเร็วมาช่วยหรือมาแทนตำรวจให้มากขึ้นด้วย และขอให้ปรับลดอัตราความเร็วในการขับขี่ในพื้นที่ชุมชนเมือง และท้องถิ่นต้องมีมาตรการกำหนดความเร็วในเขตชุมชนสำคัญ เช่น บริเวณตลาด หน้าโรงเรียน เพิ่มขึ้น“นโยบายทั้ง 4 ประการ ขอให้ทุกหน่วยงานถือเป็น “จุดเน้น” และ “จุดเสริม” ของแนวทางการดำเนินการต่างๆ เสมือนการเสริม “ยาแรง” เพื่อช่วยให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายท้าทายของทศวรรษที่ตั้งไว้ร่วมกัน โดยมาเริ่มต้นที่วันสงกรานต์ปีนี้ ในปฏิบัติการ “7 วัน 77 จังหวัด สงกรานต์ปลอดภัย” เพื่อนำไปสู่ “365 วันปลอดภัยของประเทศไทยทุกพื้นที่” และสู่เป้าหมายทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนนต่อไป” น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า นอกจากนั้นรัฐบาล ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และภาคีเครือข่าย จัดกิจกรรมรณรงค์อย่างต่อเนื่อง ได้แก่ กิจกรรมรณรงค์ปั้มปลอดภัยทั่วประเทศ ใน 4 ปั้มใหญ่ 4 มุมเมือง กทม.ในวันที่ 12 เม.ย. เพื่อให้เป็นจุดบริการ ที่พักผ่อนระหว่างการเดินทางของประชาชน กิจกรรม ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง ที่ จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 13 เม.ย. เพื่อเป็นกิจกรรมต้นแบบของการเล่นสงกรานต์แบบอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย และกิจกรรมสงกรานต์ ถ.ข้าวเหนียว จ.ขอนแก่น วันที่ 14 เม.ย. ซึ่งเป็นต้นแบบการเล่นสงกรานต์ที่สามารถสร้างสถิติโลก จากคลื่นมนุษย์ไร้แอลกอฮอล์ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ไว้เมื่อปี 2554จากนั้น นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ขับรถยนต์เปิดประทุนนำขบวนรณรงค์ โดยมีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีสำนักนายกฯ ร่วมขบวนรณรงค์สงกรานต์ปลอดภัย 2555บริเวณรอบทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงการขับขี่รถยนต์อย่างปลอดภัย โดยการคาดเข็มขัดนิรภัยเมื่อขับขี่รถยนต์ และสวมหมวกนิรภัย เมื่อขับขี่รถจักรยานยนต์
ทั้งนี้ในส่วนของกระทรวงไอซีที ได้จัดเตรียมระบบบริการข้อมูลสำคัญในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงได้จากหลายช่องทาง อาทิ Application “ICT Care” รองรับระบบ iOS เวอร์ชั่น 5.0 ขึ้นไป สามารถเชื่อมต่อข้อมูลต่างๆ เช่น ข้อมูลเส้นทางการจราจรแบบ Realtime iOS ข้อมูลกล้องวงจรปิดเพื่อแสดงผลในโทรศัพท์มือถือระบบ iOS ระบบรายงานอุบัติเหตุจากภาคประชาชนเพื่อส่งภาพเข้าสู่ศูนย์กลางรับเรื่องแล้วส่งต่อไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบ แจ้งข่าวสารผ่านสถานีโทรทัศน์ เมนูเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉิน เป็นต้น นอกจากนั้นสามารถสอบถามข้อมูลการจราจร สถานที่จัดกิจกรรม ที่พัก สถานีตำรวจ แจ้งเหตุฉุกเฉินผ่าน Call Center หมายเลข 1111 และ 192 หรือเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์สามารถแจ้งหมายเลข 1669