ตำรวจเก๊เกลื่อนอันธพาลรีดไถครองเมือง
ใครๆก็อยากเป็นตำรวจ แบบว่าอยากกร่าง อยากเบ่ง ให้ชาวบ้านกลัวเกรงไปวันๆ
โดย...ธนก บังผล
ใครๆก็อยากเป็นตำรวจ แบบว่าอยากกร่าง อยากเบ่ง ให้ชาวบ้านกลัวเกรงไปวันๆ
แต่ก็มีไม่น้อยที่เกลียดตำรวจแบบเข้าไส้ โดยเฉพาะตำรวจจราจรที่รีดไถได้ตลอด ตั้งด่านทีขับขี่รถผ่านปุ๊บเสียตังค์ปั๊บ โอ้พ่อมหาจำเริญ เศรษฐกิจแย่อย่างนี้บางทีเครื่องดื่มชูกำลัง 2 ขวดก็เอา เสียชื่อผู้พิทักษ์สันติราษฎร์หมด
เรื่องตั้งด่านนี่ละ ทำให้พวกหัวใสริอาจปลอมตัวเป็นตำรวจตั้งด่านรีดไถกันหน้าด้านๆ แต่บังเอิญว่าโชคไม่เข้าข้างเนื่องจากไปตั้งด่านดักหน้าตำรวจจริง เรื่องก็เลยแตกโดนจับให้อับอาย
ตีหนึ่ง คืนนั้นเมื่อไม่นานมานี้ ร.ต.ท.สุทธิรักษ์ ลัคนาลิขิต รองสารวัตรป้องกันปราบปราม (รอง สว.ป.) นำกำลังสายตรวจตั้งด่านตรวจป้องกันเหตุ ที่บริเวณทางโค้งหน้าวัดโคกพรม ขาเข้าเมืองนครราชสีมา ถ.มิตรภาพ
ระหว่างนั้นก็เจอผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รายหนึ่งไม่ปฏิบัติตามกฎจราจรและผิดกฎหมาย เลยเรียกตรวจรถจักรยานยนต์คันนั้น
อ่านะ เรื่องที่ไม่เคยคิดว่าจะเกิดก็เกิดจนได้ คนขี่จักรยานยนต์นั้นโอดโอยบอกตำรวจว่าเพิ่งจะถูกจับและเสียเงินค่าปรับให้กับตำรวจไปตรงด่านที่แล้ว พร้อมกับตัดพ้อว่าตำรวจที่ไปยืนดักรออยู่ก่อนที่จะขับมาถึงด่านตรวจตรงนี้ห่างกันแค่ประมาณ 800เมตรเท่านั้น
พอรู้อย่างนี้ปุ๊บ ร.ต.ท.สุทธิรักษ์ เลยขี่มอเตอร์ไซค์สายตรวจย้อนกลับไปตรงที่ได้รับแจ้ง ก็เจอผู้ต้องหาแต่งเครื่องแบบตำรวจยืนซุ่มมืด รอดักเรียกทำทีตรวจจับรถจักรยานยนต์พอรู้ว่าเป็นตำรวจปลอม ก็เลยควบคุมตัวนำมาดำเนินคดี
ผู้ต้องหารายนี้ชื่อ นายสิงห์หา แสงรู้ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 104 ท้าวสุระ ซอย 1 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ถูกจับกุมพร้อมเครื่องแบบตำรวจประดับเครื่องหมาย เสื้อสะท้อนแสง กุญแจมือ ซองใส่ปืน วิทยุสื่อสาร 1 เครื่อง เงินสด 1,400 บาท และรถเก๋งฮอนด้า สีขาว หมายเลขทะเบียน กว 5106 นครราชสีมา
รอง สว.ป. โคราช เลยนำตัวไปดำเนินคดีฐานแสดงตนและกระทำการเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ สวมเครื่องแบบตำรวจและใช้วิทยุสื่อสารโดยไม่ได้รับอนุญาต
แต่นายสิงห์หา ให้การว่า เป็นลูกจ้างเต็นท์ขายรถยนต์แห่งหนึ่งใน อ.สูงเนิน และเป็นอาสาสมัครตำรวจบ้าน ช่วยงานด้านจราจรของ สภ.เมืองนครราชสีมา แม้จะยอมรับว่า ได้ตั้งด่านเถื่อนจริง แต่ก็ยังมั่วอีกว่า มาทำหน้าที่ช่วยตำรวจดักรถจักรยานยนต์ ที่ขี่ย้อนศรหนีการจับกุม เมื่อพบจะไล่ให้ขี่กลับไปที่ด่านตรวจ แต่มีบางรายที่ยื่นข้อเสนอให้เงินเพื่อแลกกับให้ปล่อยตัวไป
โอ๊ะโอ..ร.ต.ท.สุทธิรักษ์ ถึงกับงงตาแตก เพราะไม่มีใครบอกว่าจะให้ใครไปตั้งด่านดักรถที่ขี่ย้อนศรเลย หลักฐานก็เลยไม่แน่นไม่น่าเชื่อถือ
เมื่อไม่ปักใจเชื่อ เพราะเหตุผลอีกอย่างหนึ่งคือก่อนหน้านี้เคยได้รับแจ้งจากพลเมืองดี และผู้ขับขี่รถหลายรายว่ามีกลุ่มบุคคลแต่งกายคล้ายตำรวจ แต่บุคลิก ท่าทาง การพูดการจา ไม่เหมือนตำรวจ
เอิ่ม...ดูไปดูมาแล้วปลอมได้เหมือนแค่อาสาสมัครตำรวจบ้าน พวกนี้มักชอบไปดักซุ่มตามถนนตรอกซอกซอยคอยเรียกตรวจรถจักรยานยนต์ที่ผิดกฎหมาย หรือผู้ขับขี่ที่ดื่มสุรา ก่อนเรียกรับเงินเพื่อแลกกับการถูกจับกุม
ยิ่งไปกว่านี้ พลเมืองดี และผู้ขับขี่หลายรายยังบอกอีกว่า มีกลุ่มบุคคลแต่งกายคล้ายตำรวจ นำรถปิกอัพ พร้อมเครื่องมืออุปกรณ์ในการตั้งจุดตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ คอยตั้งด่านเถื่อนซุ่มตามถนน ตรอก ซอกซอย โดยเฉพาะช่วงเวลาหลังสถานบริการกลางคืนเลิก เพื่อทำทีตรวจรถจักรยานยนต์ผิดกฎหมาย หรือผู้ขับขี่ที่ดื่มสุรา จากนั้นเรียกรับเงินเพื่อแลกกับการถูกจับดำเนินคดี โดยจักรยานยนต์ ราคา 200-3,000 บาท แต่ถ้าเป็นรถยนต์ราคาจะอยู่ที่ 500-5,000 บาท แหม...กินนิ่มสุดๆ
พ.ต.ท.อนันต์ พิมพ์เจริญ รอง ผกก.สส. สภ.เมือง นครราชสีมา บอกว่า กลุ่มคนร้ายนี้จะใช้เวลาดำเนินการไม่นานนัก แล้วเปลี่ยนสถานที่อื่นต่อไป เพื่อป้องกันถูกจับกุม ซึ่งทางตำรวจกำลังพยายามสืบสวนติดตามจับกุมมาดำเนินคดี หากพบเบาะแสสามารถแจ้งเข้ามาที่ สภ.เมือง นครราชสีมา โทรศัพท์ 044-242-555 ตลอด 24 ชม.
เหลือบสังคมที่เอาชุดตำรวจมาหลอกกินชาวบ้านนี่น่าจะโดนขังลืมสักที เพราะเหตุอย่างนี้มีบ่อยมาก
เรื่องฮาๆ ที่นึกไม่ถึงว่าพวกตำรวจเก๊จะทำก็คือเข้าไปสอบถามข้อมูลของคนไข้ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในอ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรู้สึกผิดปกติเลยแจ้งให้ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ
อ่า..ฮาไม่ฮา พอตำรวจจริงเข้าไปจับกุมปุ๊บ ก็เลยทดสอบให้นายคนนี้ที่อ้างว่าตัวเอง ชื่อ พ.ต.ต.อภิสิทธิ์ อุอุ สารวัตมาร์คอ๊ะป่าวนิ ร้องเพลงมาร์ชตำรวจ
แม่เจ้า เขาตะโกนเพลงมาร์ชออกมาเสียงดัง “ตำรวจสู้ๆ” ...อย่างนี้ก็เข้าคุกสิครับ ตำรวจสู้แน่คดีอย่างนี้ อิอิ
มิจฉาชีพกลุ่มนี้ยังแฝงตัวเป็นตำรวจหากรู้ว่าหญิงสาวคนไหนติดยาก็จะเข้าไปทำทีว่าพาไปตรวจปัสสาวะ เพ่อจับกุมก่อนจะพาไปข่มขืนก็มี
เพราะฉะนั้น ตำรวจแท้ตำรวจจริงนั้น หากไม่แน่ใจให้แจ้ง 191 เพื่อตรวจสอบ อย่าได้กลัว หากมีคดีอะไรตามมาให้ทำเรื่องฟ้องร้องจเรตำรวจได้เลยถ้าเราไม่ผิด
อย่าปล่อยให้เหลือบสังคมลอยนวล
ตรวจสอบบัตรตำรวจ
พ.ต.อ.สมนึก จันทร์เกตุ ผกก.สภ.บางละมุง ฝากถึงพี่น้องประชาชนทั่วไปว่า หากมีผู้ที่แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แล้วทำการข่มขู่หรือบังคับในลักษณะเช่นเดียวกันนี้ ขอให้อย่าทำตามที่ผู้แอบอ้างออกคำสั่ง และขอให้ตรวจสอบบัตรประจำตัวข้าราชการตำรวจ พร้อมกับโทรศัพท์แจ้งมายังสถานีตำรวจในพื้นที่ของท่านว่าบุคคลคนนั้น เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงหรือไม่
โดยประชาชนควรจดบันทึกว่า สถานีตำรวจในท้องที่เบอร์โทรศัพท์อะไร เผื่อต้องแจ้งเหตุหรือมีเหตุร้ายเกิดขึ้น