ระเบิดรถทหารเรือที่ปัตตานีดับ1

ลอบกดระเบิดรถบัสทหารเรือและแม่บ้าน ทหารตาย 1 เจ็บหลายคน

เมื่อเวลา 17.50 น.วันที่ 11 พ.ค. พ.ต.อ.มานะ นาคคั่ง ผกก.สภ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี รับแจ้งเกิดเหตุระเบิดขึ้น ที่บนถนนสาย 42 ระหว่างปัตตานี-นราธิวาส ม.3 บ้านตอหลัง ต.ตอหลัง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี  จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ทนงค์ศักดิ์ วังสุภา รอง ผบก.ภ. , พ.อ.นิติ  ติณสูลานนท์ ผบ.ฉกทหารพรานที่ 44 พร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด และตำรวจพิสูจน์หลักฐานปัตตานี  ทั้งกำลังตำรวจ ทหาร รุดไปตรวจสอบ 

ที่เกิดเหตุเป็นเส้นทางทำให้รถติดยาวเหยียด  เจ้าหน้าที่จึงต้องให้เส้นทางอื่น  ส่วนที่เกิดเหตุพบรถโดยสารขนาดกลาง ของกรมการขนส่ง ทหารเรือ ค่ายจุฬาภรณ์(กองทัพเรือ) จ.นราธิวาส  ตกอยู่ในคูข้างทาง สภาพด้านหน้ายุบชนต้นไม้ กระจกหน้า และหลังแตก บริเวณที่คนขับ ประตูเปิดออก พบกองเลือด  ส่วนคนเจ็บถูกลำเลียงส่งโรงพยาบาลอำเภอยะหริ่ง   ทราบชื่อ พ.จ.อ.จิระวงศ์  เนาวมุตา  อายุ 50 ปี  พลขับ  สภาพถูกสะเก็ดเข้าที่ศรีษะ และลำตัว ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตระหว่างทาง , พ.จ.อ.สมพงษ์ ฮวดหลง อายุ 59 ปี  ถูกสะเก็ดระเบิด และกระจก เข้าที่บริเวณลำตัว บาดเจ็บสาหัส, นอกจากนั้น มีบาดเจ็บเล็กน้อย ประกอบด้วย เรือเอกปรีชา ขาวสะอาด ,เรือเอกจำนง วงศ์เกตุใจ , เรือเอกวัชรินทร์ แก้วกระจ่าง.,พ.จ.อ.สุพจน์ แก้วสังวารย์, พ.จ.อ.สมภาส  สุวรรณ ,นางสมจิต วงศ์เกตุใจ, นางศิริรัตน์ บุญชาตรี,นางยุพเยาว์ แก้วสว่าง,นายณัฐวุฒิ วงศ์ดวงแก้ว  ทุกคนถูกลำเลียงส่งโรงพยาบาลยะหริ่ง

นอกจากนั้นที่เกิดเหตุพบหลุมระเบิดใหญ่กลางถนน ขนาดลึก 2 เมตร กว้าง 3 เมตร  และพบสเก็ดระเบิด พร้อมผิวถนนกระจัดกระจาย ไปทั่วรัศมี 50 เมตร

จากการสอบสวนทราบว่า รถโดยสาร เป็นของค่ายจุฬาภรณ์ (กองทัพเรือ) จ.นราธิวาส  มีผู้โดยสารเป็นทหารเรือ พร้อมแม่บ้านในค่ายจุฬาภรณ์  รวม 13 คน กลับมาจากเยี่ยมทหารป่วยด้วยโรคประจำตัว ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์  อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา  เมื่อขับถึงระหว่างทาง ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ได้เข้าไปในท่อลอดถนน และเจาะฝังระเบิดใต้ถนน เป็นระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในถังแก๊สน้ำหนักประมาณ 30 กก. และลากสายไฟฟ้ายาว 150 เมตร ไปในป่าละเมาะ ก่อนหน้านั้นแล้ว  เมื่อรถทหารมาถึง คนร้ายจึงกดชนวนด้วยแบตเตอรี่ แรงระเบิดทำให้รถโดยสารตกคูข้างทาง และทำให้ทหารเสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว

ส่วนสาเหตุการระเบิดครั้งเชื่อว่า เกลือเป็นหนอน สามารถรู้หมายเดินทางไปเยี่ยมและขากลับของคณะ โดยคนร้ายเตรียมความพร้อมรออยู่ก่อนแล้ว  ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบผู้ที่รู้กำหนดการเดินทางของเหล่าทหารเรือและกลุ่มแม่บ้าน เบื้องต้นเป็นการก่อเหตุของกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่เพื่อสร้างสถานการณ์