posttoday

สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี ในรัชกาลที่ 4 (1)

10 พฤศจิกายน 2556

สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินีในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 มีพระนามเดิมว่า หม่อมเจ้ารำเพย ศิริวงศ์

สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินีในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 มีพระนามเดิมว่า หม่อมเจ้ารำเพย ศิริวงศ์ เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 ก.ค. ปี 2377 เป็นพระธิดาในสมเด็จพระบรมราชมาตามหัยกาเธอ พระองค์เจ้าศิริวงศ์ กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์ (ต้นราชสกุลศิริวงศ์) พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 กับเจ้าจอมมารดาทรัพย์ พระมารดาของหม่อมเจ้ารำเพย ศิริวงศ์ คือหม่อมน้อย ศิริวงศ์ ณ อยุธยา สตรีชาวบางเขน ผู้เป็นธิดาของนายบุศย์และคุณแจ่ม ผู้เป็นธิดาของพระยารัตนจักร (หงส์ทอง สรคุปต์) หรือสมิงสอดเบา เชื้อสายมอญ คุณแจ่มมารดาของหม่อมน้อย มีความผูกพันใกล้ชิดกับคนในพระราชวงศ์จักรี เนื่องจากคุณม่วง มารดาของคุณแจ่มเป็นน้องสาวต่างมารดาของเจ้าจอมมารดาป้อมในรัชกาลที่ 1 เจ้าจอมเพ็ง และเจ้าจอมมารดาเอม ในรัชกาลที่ 2

สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี ในรัชกาลที่ 4 (1)

 

สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี เสด็จเข้าไปประทับในพระบรมมหาราชวังตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ เนื่องจากพระชนกชนนีสิ้นพระชนม์ ระยะแรกทรงอยู่ในพระอภิบาลของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอฯ กรมพระยาสุดารัตนราชประยูร ซึ่งเป็นสมเด็จอา ณ พระตำหนักตึก ซึ่งเป็นตำหนักเดิมของสมเด็จพระศรีสุลาลัย พระราชมารดาในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ต่อมาทรงย้ายไปประทับกับพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวรเสรฐสุดา หรือพระองค์เจ้าละม่อม เพื่อทรงศึกษาอักขรวิธีและพระราชประเพณี ณ พระตำหนักต้นจำปี ได้ทรงฝึกหัดการถวายงานพัด ได้ถวายงานพัดเป็นที่ถูกพระราชหฤทัยในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงโปรดเกล้าพระราชทานนามแด่สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินีว่า “รำเพย” อันมีความหมายว่าลมเย็นที่พัดค่อยๆ อ่อนๆ มีเรื่องเล่าต่อๆ กันมาว่า พระยาศรีสุนทรโวหาร (ฟัก) ขณะเป็นพระภิกษุในที่พระศรีสุทธิวงศ์ ได้นำต้นไม้ชนิดหนึ่งจากเกาะลังกามาถวายแด่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์โปรดไม้นั้นมาก จึงพระราชทานชื่อไม้นั้นว่า “รำเพย” ตามพระนามของพระเจ้าหลานเธอที่พระองค์ทรงสนิทเสน่หา รำเพยเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง แตกกิ่งสาขามาก นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ ลักษณะเป็นใบแคบสีเขียวหนาและแข็ง ปลายใบสอบแหลม ดอกเป็นรูปกรวย มีสีเหลือง สีส้ม และขาว เคยมีสีแดงแต่สูญพันธุ์ไปแล้ว มีถิ่นกำเนิดอยู่ในหมู่เกาะอินเดียตะวันตก

สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี ทรงเป็นพระอัครมเหสีที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดปรานยิ่ง ทรงมีพระวรกายบอบบางและมีพระอุปนิสัยที่สงบเสงี่ยม พระบรมราชสวามีทรงเรียกพระนามของพระองค์สั้นๆ ว่า “แม่เพย” เนื่องจากเมื่อพระองค์ได้มาเป็นมเหสีในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้น พระองค์ได้รับสมมตยาภิเษกในปี 2395 ว่า สมเด็จพระนางเธอ พระองค์เจ้ารำเพยภมราภิรมย์

สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี ประสูติพระราชโอรสพระองค์แรก เมื่อวันอังคาร เดือน 10 แรม 3 ค่ำ ปีฉลู เบญจศก จ.ศ. 1215 ตรงกับวันที่ 20 ก.ย. ปี 2396 ทรงเป็นพระราชโอรสพระองค์แรกในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ประสูติภายหลังบรมราชาภิเษก พระราชพงศาวดารรัชกาลที่ 4 ของเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ บันทึกไว้ว่า

“ครั้นมาถึงเดือน 10 ข้างแรม สมเด็จพระนางเจ้ารำเพยภมราภิรมย์ ซึ่งเป็นพระเจ้าหลานเธอในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นบุตรีกรมหมื่นมาตยาพิทักษ์ ราชโอรสผู้ใหญ่ ประสูติพระราชโอรสพระองค์หนึ่ง ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบรมวงศานุวงศ์และเสนาบดีจึงเข้าชื่อกราบทูลว่า ทุกวันนี้เจ้าฟ้าไม่มีเหมือนแต่ก่อน ขอให้ยกขึ้นเป็นเจ้าฟ้าจะได้สมเยี่ยงอย่างแต่โบราณมา ได้ทรงทราบคำปรึกษากราบทูลดังนั้นแล้ว จึงพระราชทานพระนามว่า “เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์”

หลังจากนั้น สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี ได้ประสูติพระราชธิดาและพระราชโอรสอีก 3 พระองค์ คือ

1.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจันทรมณฑลโสภณภควดี

2.สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจาตุรนต์รัศมี

3.สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์

พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชหัตถเลขาถึงเจ้าจอมมารดาผึ้ง เล่าถึงผู้ที่แวดล้อมตามเสด็จสมเด็จพระนางเธอ พระองค์เจ้ารำเพยภมราภิรมย์ ไปทอดกฐิน ณ จ.พระนครศรีอยุธยา ในปี 2399 ความว่า

“...ลูกเมียและคนทั้งปวงที่มาด้วยก็สบายอยู่หมดทุกคน ทูลพระองค์ละม่อมให้ทราบด้วยว่า ชายฟ้าหญิงฟ้ากับรำเพยก็สบายดี แม่พาลูกทั้งเล็กทั้งใหญ่ไปเที่ยวหลายแห่งก็ไม่เจ็บไม่ไข้อะไรดอก...”

สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี ทรงมีพระพลานามัยไม่ค่อยจะแข็งแรงตั้งแต่ปี 2399 แต่พระอาการประชวรได้ปรากฏให้เห็นชัดเจนภายหลังประสูติสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ พระราชโอรสพระองค์ที่ 4 ในปี2402 พระองค์ทรงประชวร แต่ก็รับสั่งว่า “ไม่เป็นอะไรมากหรอก” แม้จะทรงพระกาสะ (ไอ) อยู่เสมอ และพระวรกายซูบผอมลง แต่ถึงจะประชวรก็มิได้ทรงแสดงว่าได้รับทุกขเวทนา ทรงปฏิบัติพระองค์เช่นปกติทุกประการ ทรงดูแลพระราชโอรสและพระราชธิดาด้วยพระองค์เอง พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชหัตถเลขาเกี่ยวกับอาการประชวรของพระอัครมเหสีดังนี้

“...แต่แม่รำเพย ตั้งแต่คลอดบุตรชายภาณุรังษีสว่างวงศ์มาแล้ว ป่วยให้ไอและซูบผอมมากไป กลัวจะตั้งวัณโรคภายใน...”