ยานสำรวจอวกาศเสาะหาแหล่งขุมทรัพย์อวกาศ

9.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ คือมูลค่าโลหะบนดาวเคราะห์น้อยริวกู อีกไม่นานสมบัติจากอวกาศจะดึงดูดบริษัทเหมืองแร่ในสหรัฐออกไปนอกบรรยากาศโลกเพื่อขุดโลหะจากดาวเคราะห์น้อยอันล้ำค่า และนำกลับมาโลกด้วยดาวเทียมอัจฉริยะขนาดเล็ก

ในเมืองขนาดเล็กบนที่ราบชาโกออสตรัลอันไพศาลทางตอนเหนือของประเทศอาร์เจนตินานั้น คุณสามารถเห็นร่องรอยวัตถุจากอวกาศ ไม่ว่าจะเป็นหลุมอุกกาบาตขนาดใหญ่และเศษอุกกาบาต แสดงให้เห็นว่าไม่เพียงมีดาวเคราะห์น้อยซึ่งพุ่งด้วยความเร็วสูง แต่ยังบอกด้วยว่ามันมีองค์ประกอบของโลหะ ในหลุมและอุกกาบาตที่อาร์เจนตินามีเหล็กปริมาณมาก ถ้าเราคูณมันด้วยดาวเคราะห์น้อยนับล้านในอวกาศระบบสุริยะจะต้องมีโลหะปริมาณมากเกินจินตนาการเลยทีเดียว ซึ่งนักธุรกิจชาวอเมริกันอยากจะยื่นมือเข้าไปตักตวง

ในสหรัฐอเมริกาเพิ่งมีบริษัทเหมืองแร่พันธุ์ใหม่เกิดขึ้น พวกเขาไม่ใช้คนงาน แต่ใช้ดาวเทียมแทนและต่างกำลังแข่งกันไปยังขุมทรัพย์อวกาศไร้คนกล้ำกรายให้ได้เป็นรายแรก สองบริษัทแนวหน้า ได้แก่ แพลเนแทรีรีซอร์เซส (Planetary Resources) และดีปสเปซอินดัสทรีส์ (Deep Space Industries) ทั้งคู่ได้วางกลยุทธ์และมีความมุ่งหมายสูงเพื่อครอบครองแหล่งทองคำขาว ทองคำ และโลหะหายากชนิดอื่นในระบบสุริยะ เริ่มจากการเดินทางด้วยจรวดเร่ง และรวมไปถึงการมุ่งมั่นพัฒนาหุ่นยนต์ตักกรวดบนดาวเคราะห์น้อย วิเคราะห์โลหะหายาก และถึงขั้นสร้างสถานีอวกาศแห่งใหม่ในที่ห่างไกลจากโลกหลายล้านกิโลเมตร

บนดาวเคราะห์น้อยมีทองคำขาว

บริษัทแนวหน้าทั้งคู่มีแหล่งทุนหนุนหลังแน่นหนา แพลเนแทรีรีซอร์เซสได้รับการสนับสนุนจาก เจมส์ คาเมรอน ผู้สร้างภาพยนตร์เรื่อง Avatar และแลร์รี เพจ ผู้ร่วมก่อตั้งกูเกิล ทั้งสองบริษัทได้
ริเริ่มการเสาะหาทรัพยากรอวกาศมานานแล้วและปัจจุบันได้ศึกษาอุกกาบาตและดาวเคราะห์น้อย ซึ่งก็คือบริวารเศษเล็กเศษน้อยของดวงอาทิตย์ไปแล้วกว่า 5 หมื่นดวง หลังการศึกษาอย่างละเอียด บริษัทก็รู้ว่าวัตถุท้องฟ้าเหล่านั้นมักมีโลหะสูงค่า ดาวเคราะห์น้อยบางดวงอุดมไปด้วยทองคำขาว ซึ่งแพงกว่าทองคำ แพลเนแทรีรีซอร์เซสประมาณว่าดาวเคราะห์น้อยขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 500 เมตร อาจมีทองคำขาวมากกว่าที่เคยขุดได้ในโลกทั้งหมด ดังนั้น ความมุ่งหมายในการทำเหมืองแร่อวกาศของบริษัทจึงสมเหตุสมผลอย่างยิ่ง

บริษัทเหมืองแร่เล็งล้านล้าน

ดาวเคราะห์น้อยเกือบทั้งหมดโคจรรอบดวงอาทิตย์ในแถบดาวเคราะห์น้อยระหว่างดาวอังคารและดาวพฤหัสบดี ซึ่งมีดาวเคราะห์น้อยขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า 1 กิโลเมตร จำนวนราว 1.9 ล้านดวง และที่เล็กกว่านั้นอีกหลายล้านดวง ชนิดของดาวในแถบมีหลากหลาย ดาวเคราะห์น้อยดาวิดา ชีวา และเจอร์มาเนีย มีมูลค่าประมาณดวงละกว่า 100 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ แต่ก่อนที่ความทะเยอทะยานของบริษัทเหมืองแร่จะไปถึงขุมทรัพย์แถบดาวเคราะห์น้อยช่างไกลโพ้น พวกเขาต้องเริ่มจากภารกิจไปดาวเคราะห์น้อยใกล้โลกจำนวนมากให้ได้ก่อน นักวิทยาศาสตร์ค้นพบดาวเคราะห์น้อยใกล้โลกแล้ว 12,745 ดวง จากจำนวนที่เชื่อกันว่าน่าจะมีอยู่ไม่เกิน 1 ล้านดวง

มูลค่าของดาวเคราะห์น้อยขึ้นอยู่กับองค์ประกอบดาวเคราะห์น้อย แบ่งได้เป็นสองประเภทหลัก คือดาวเคราะห์น้อยไม่แปรสภาพ ซึ่งประกอบด้วยแร่ธาตุยุคเริ่มต้นของระบบสุริยะที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งและดาวเคราะห์น้อยแปรสภาพ ซึ่งเติบโตขึ้นมากจนโลหะจมลงเป็นแก่น ส่วนเปลือกดาวคือหินดาวเคราะห์น้อยประเภทนี้หลายดวงได้แตกออกกลายเป็นเศษเปลือกดาวมากมายกับโลหะที่เกิดจากแก่นดาว บริษัทเหมืองแร่ต่างพยายามเต็มที่ เพื่อไปให้ถึงดาวเคราะห์น้อยโลหะ ซึ่งก็คือ ซากแก่นดาวเหล่านี้นั่นเอง

การสำรวจเริ่มต้น

ทั้งแพลเนแทรีรีซอร์เซสและดีปสเปซอินดัสทรีส์กำลังเริ่มก้าวแรกด้วยการเร่งพัฒนาดาวเทียมราคาถูกขนาดเล็กเท่ากระเป๋าเดินทางเพื่อใช้ในภารกิจสำรวจ ตัวดาวเทียมประกอบด้วยโมดูลต่างๆ คือ เครื่องยนต์เล็ก อุปกรณ์นำร่อง อุปกรณ์สื่อสาร กล้องโทรทรรศน์ และตัวรับรู้ ซึ่งดาวเทียมใช้ในการสำรวจ ดาวเคราะห์น้อยที่น่าสนใจ แต่ละโมดูลจะมีระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์เป็นเอกเทศ จึงสามารถถอดเปลี่ยนรุ่นใหม่กว่าแทนได้ ดาวเทียมเล็ก ซึ่งหนักไม่กี่กิโลกรัมจะถูกส่งขึ้นในจรวดเร่งที่ใช้ส่งดาวเทียมใหญ่ขึ้นสู่วงโคจร หรือส่งสัมภาระให้แก่สถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) หลังมันถูกส่งขึ้นด้วยราคาถูก ดาวเทียมวิจัยจะโคจรรอบโลกจนกว่าดาวเคราะห์น้อยที่น่าสนใจจะปรากฏ

หุ่นยนต์ขุดทองในอวกาศ

เมื่อบริษัทเหมืองแร่กำหนดดาวเคราะห์น้อยที่มีศักยภาพเช่นริวกูได้แล้ว ดาวเทียมอีกประเภทหนึ่งจะเข้ามามีบทบาท โดยจะไปลงจอดบนดาวเคราะห์น้อย ยึดด้วยสมอ และเก็บตัวอย่างเพื่อการวิเคราะห์ในภายหลัง แพลเนแทรีรีซอร์เซสคาดว่าต้องใช้เวลา 10 ปี จึงจะระบุดาวเคราะห์น้อยใกล้โลกที่เหมาะสมแก่การทำเหมืองแร่ในเชิงพาณิชย์ได้

ขั้นต่อไปของนักล่าดาวเคราะห์น้อย จะเป็นระยะที่ต้องพึ่งพาความชำนาญของนักวิจัยอวกาศ วิศวกรเคมี และนักฟิสิกส์ การขุดแร่ต้องมีการพัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์ที่เชื่อถือได้ และประดิษฐกรรมใหม่ๆ ที่จะรับมือกับระยะทางที่ท้าทายทุกบริษัท มีดาวเทียมเพียงดวงเดียวที่เคยนำตัวอย่างกลับมาจากดาวเคราะห์น้อย เมื่อปี 2005 คือดาวเทียมฮะยะบุซะของญี่ปุ่นที่ลงจอดบนดาวเคราะห์น้อยอีรอสเพื่อเก็บตัวอย่างผิวดาวไม่กี่กรัม ซึ่งกลับมาถึงโลกเมื่อปี 2010

แต่บริษัทเหมืองแร่มียุทธวิธีต่างออกไป พวกเขามุ่งพัฒนาหุ่นยนต์ขุดแร่และส่งโลหะกลับโลกด้วยดาวเทียม ซึ่งใช้เชื้อเพลิงที่ผลิตจากออกซิเจนและไฮโดรเจนบนดาวเคราะห์น้อย คือจากน้ำบนนั้นนั่นเอง ดีปสเปซอินดัสทรีส์กำลังพิจารณาวิธีเปลี่ยนวงโคจรของดาวเคราะห์น้อยมูลค่าสูงให้ระยะทางขนส่งใกล้ขึ้น การผลักแผ่วเบาจะเกิดจากใบเรือสุริยะ หรือเครื่องยนต์ไอออนที่ติดตั้งบนดาวเคราะห์น้อย

ดีปสเปซอินดัสทรีส์หวังไว้สูง นอกจากการสกัดและทำให้บริสุทธิ์ก่อนนำแร่กลับมายังโลกแล้ว บริษัทผู้บุกเบิกนี้ยังวางแผนที่จะใช้นิกเกิลและโลหะอื่นๆ สร้างดาวเทียมและอุปกรณ์ขุดแร่ขึ้นใหม่บนดาวเคราะห์น้อยใกล้โลกด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติที่ซับซ้อน ดาวเทียมที่สร้างขึ้นเหล่านี้จะถูกส่งต่อไปยังแถบดาวเคราะห์น้อยระหว่างดาวอังคารและดาวพฤหัสบดี