Happy Death Day
ที่สนามบินแห่งหนึ่ง บทสนทนาระหว่างแม่-ลูกยังดังก้องอยู่ในจิตใจของผม เสียงประกาศเรียกผู้โดยสารให้ขึ้นเครื่องเป็นครั้งสุดท้าย
โดย...ชัยยศ จิรพฤกษ์ภิญโญ เครือข่ายพุทธิกา http://www.budnet.org
ที่สนามบินแห่งหนึ่ง บทสนทนาระหว่างแม่-ลูกยังดังก้องอยู่ในจิตใจของผม เสียงประกาศเรียกผู้โดยสารให้ขึ้นเครื่องเป็นครั้งสุดท้ายดังก้องขึ้น ณ ประตูขึ้นเครื่อง แม่-ลูกคู่หนึ่งกอดกันด้วยน้ำตานองหน้า เป็นการร่ำลาก่อนที่ลูกสาวจะออกเดินทาง เสียงของแม่ยังดังพอให้ผมได้ยินด้วย “แม่รักลูกนะ แม่หวังมากๆ เลยว่ามันจะมากเพียงพอสำหรับลูก” ลูกสาวตอบแม่เช่นเดียวกันว่า “หนูก็รักแม่เช่นกันค่ะ หนูหวังอย่างเดียวกันว่า มันจะเพียงพอสำหรับแม่ด้วย” ทั้งสองร่ำลาครั้งสุดท้ายก่อนที่ลูกสาวจะขึ้นเครื่อง ส่วนแม่ก็เดินหันหลังจากไป
ผมยืนอยู่ตรงนั้นรับรู้เหตุการณ์ตรงหน้า ผมดูออกว่าเธอต้องการอยู่กับความอาลัยรักสักครู่ ผมจึงเลือกที่จะไม่รบกวนเธอ แม้ว่าผมจะติดใจสงสัยคำพูดร่ำลาของพวกเธอ เหมือนเธอจะรับรู้อะไรบางอย่าง เธอจึงถามผมว่า “คุณเคยบอกลาใครที่คุณรู้มั้ยว่าคุณจะไม่ได้เจอเธออีก” ผมตอบไปว่าไม่เคย แล้วผมก็ได้โอกาสถามเธอว่า “ขอโทษนะครับ คุณพูดเหมือนบอกว่าคุณจะไม่เจอเธออีกงั้นหรือ”
“ฉันอยู่มานาน แล้วฉันก็อายุมากแล้ว ฉันมีเรื่องท้าทายชีวิตอยู่ข้างหน้า และความจริงที่รออยู่คือ ครั้งหน้าที่ลูกสาวฉันกลับมาก็คงเป็นช่วงเวลาวาระสุดท้าย ไม่ก็งานศพของฉัน”
ผมถามเธอต่อว่า “ผมได้ยินคุณกับลูกสาวพูดว่า มันจะเพียงพอสำหรับเธอ หมายความว่าอย่างไรครับ” เธอยิ้มก่อนจะตอบผมว่า “มันเป็นความปรารถนาที่ถูกส่งต่อรุ่นต่อรุ่นในครอบครัวของฉันน่ะ พ่อแม่ของฉันก็เคยพูดประโยคนี้กับลูกๆ ของท่านทุกคน เธอหยุดชั่วครู่และจ้องมองอย่างว่างเปล่าราวกับกำลังค้นหาความทรงจำบางอย่าง “ตอนที่ฉันพูดว่า ฉันรักลูกและฉันหวังว่ามันจะมากเพียงพอสำหรับเขา ฉันต้องการให้ลูกมีชีวิตที่เต็มเปี่ยมกับความรู้สึกว่าสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตมันมากเพียงพอที่จะหล่อเลี้ยงชีวิตต่อๆ ไปของเธอ”
“ฉันหวังเสมอว่าแสงสว่างที่เข้ามาจะมากเพียงพอที่จะหล่อเลี้ยงชีวิต ความเป็นตัวเขาให้สว่างสดใสเสมอ ฉันหวังเสมอว่าน้ำฝนที่ตกลงมามากเพียงพอที่จะชื่นชมขอบคุณดวงอาทิตย์ ฉันหวังเสมอว่าความสุขที่เข้ามาในชีวิตจะมากเพียงพอที่จะหล่อเลี้ยงวิญญาณให้มีชีวิตสดใส ฉันหวังเสมอว่าความเจ็บปวดที่เข้ามาในชีวิตมากเพียงพอที่จะทำให้ความเบิกบานอันเล็กน้อยในชีวิตจะขยายเพิ่มพูนขึ้นได้ ฉันหวังเสมอว่าสิ่งที่ได้มาจะมากเพียงพอที่จะดูแลความต้องการต่างๆ ของชีวิต ฉันหวังเสมอว่าการสูญเสียที่เกิดขึ้นจะเพียงพอสำหรับการชื่นชมยินดีกับสิ่งต่างๆ ที่ฉันยึดถือ ฉันหวังจริงๆ ว่า คำทักทายสวัสดีจะเพียงพอหล่อเลี้ยงไปถึงการกล่าวคำลาในครั้งสุดท้าย”
เธอกล่าวจบ จากนั้นเธอก็เดินจากไป
มีคำกล่าวว่า พวกเราอาจใช้เวลาไม่กี่นาทีในการพบพานบุคคลสำคัญในชีวิต พวกเราอาจใช้เวลาไม่ถึงวันเพื่อชื่นชมยินดีพวกเขาเหล่านั้น และใช้เวลาไม่ถึงเดือนที่จะรักพวกเขาได้ และพวกเราก็อาจใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อที่จะมีพวกเขาอยู่ในความทรงจำตลอดไป ผมยอมรับว่าบทสนทนาที่ได้คุยกับคุณแม่ท่านนี้อยู่ในจิตใจผมมาตลอด
แม่ลูกคู่นี้ตระหนักรู้ชัดเจนว่า วันหนึ่งเมื่อความตายมาถึง การจากลาที่เกิดขึ้นจะสร้างความเศร้าโศกให้เกิดขึ้น และแท้จริงในช่วงเวลาของการเกิด กับการตาย คือ ช่วงเวลาแห่งการมีชีวิต เราทุกคนก็ได้รับประสบการณ์มากมายทั้งความรัก ความเบิกบาน สดใส ความสุข และรวมถึงประสบการณ์ความผิดหวัง ความเศร้าเสียใจ ประสบการณ์มากมายที่เข้ามา หลายคนมุ่งหวงแหนรักษาหรือไขว่คว้ากับประสบการณ์ที่ตนรักชอบพอและน่ายินดี พร้อมกับผลักไส หลีกเลี่ยง หนีห่างกับประสบการณ์ที่ไม่ชอบ สิ่งที่อึดอัดคับข้อง ทั้งการไขว่คว้า ทั้งการผลักไส ทั้งหมดสิ้นสุดและหมดความหมายเมื่อวันจากลามาถึง ทุกอย่างก็คือ การสิ้นสุด บทเรียนชีวิตที่หลายคนมักหลงลืม คือบทเรียนเรื่องการปล่อยวาง นี่คือหนทางการรับมือกับการจากลา การสิ้นสุดด้วยการมีความสุขสงบภายในได้
แม่ลูกคู่นี้เลือกที่จะยอมรับความจริงของชีวิตว่า วันจากลานั้นรอคอยอยู่ และเลือกที่จะอยู่กับความพอใจและการยอมรับในสิ่งที่เข้ามาในชีวิต ด้วยทัศนคติที่ว่า ทั้งหมดที่ผ่านเข้ามาในชีวิตนั้นมีมากเพียงพอสำหรับหล่อเลี้ยงชีวิตที่จะดำเนินไปข้างหน้า ประสบการณ์ต่างๆ ที่เข้ามามากมายเพียงพอที่จะหล่อเลี้ยง ปกป้อง คุ้มครองชีวิต ยามเมื่อต้องเผชิญทุกข์ภัยต่างๆ นานา โดยเฉพาะเมื่อวันจากลา การสูญเสียมาถึง
“แค่ไหนก็แค่นั้น” ไม่ใช่ทัศนคติของการยอมแพ้ แต่คือ การยอมรับความจริงของชีวิต ยอมจำนนกับสัจธรรมของชีวิต พร้อมกับการเลือกมีอิสระที่จะมองชีวิต ใช้ชีวิตในช่วงระหว่างการเกิดกับการตายให้ดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ตัวเลข 0 กับตัวเลข 1 อาจดูมีค่าแตกต่างเพียงน้อยนิด แต่ระหว่างตัวเลขทั้งสอง แท้จริงมีตัวเลขทศนิยมอเนกอนันต์มากมายนับไม่ถ้วน มีประสบการณ์ชีวิตมากมายรอคอยระหว่างเกิดกับตาย เหมือนตัวเลขมากมายที่อยู่ระหว่าง 0 กับ 1 การใช้ชีวิตให้มีความหมายในระหว่างการเกิดกับการตายคือ การเลือกของเรา แค่ไหนก็แค่นั้นเพราะนั่นก็มากมายเพียงพอสำหรับการหล่อเลี้ยงชีวิต
แค่ไหนก็แค่นั้น ไม่ติดค้าง ไม่ยึดถือ พอใจกับสิ่งที่ผ่านมาและสิ่งที่เป็นไปทั้งที่ชอบ และไม่ชอบ ปล่อยวางกับการยึดถือ การตัดสิน เพื่อให้วันจากลา อันเป็นวันจบสิ้นอายุกลายเป็นวันตายที่มีความสุข Happy Death Day!