พช.เปิดปฏิบัติการ90วันปลูกผักสวนครัวสร้างความมั่นคงทางอาหารเฟส2
นนทบุรี-กรมการพัฒนาชุมชนรุกต่อเฟส 2 ตีปี๊บให้ทุกครัวเรือนหันมาปลูกผักสร้างความมั่นคงทางอาหารในช่วงโควิด-19ระบาด หลังประสบความสำเร็จในเฟสแรกกว่า 12 ล้านครัวเรือนหนุน
เมื่อวันที่ 13 มกราคม นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน(พข.) กระทรวงมหาดไทย และ นายวิชัย เหล่าเจริญพรกุล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีสเวสท์ ซีด จำกัด ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) เพื่อร่วมดำเนินการตามแผนปฏิบัติการ “90 วัน ปลูกผักสวนครัว สร้างความมั่นคงทางอาหาร ครั้งที่ 2” สนับสนุนให้ภาคประชาชน ภาคเอกชน รวมถึงเกษตรกร มีการปลูกผักสวนครัว รั้วกินได้ ไว้บริโภคในครัวเรือน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกที่ 2 โดยมี ผู้บริหารทั้งสองหน่วยงานเข้าร่วมเป็นสักขีพยาน เพื่อส่งมอบเมล็ดพันธุ์ผักตราศรแดง จำนวน 100,000 ซอง ณ บริษัท อีสท์ เวลท์ ซีด จำกัด (สำนักงานใหญ่) จ.นนทบุรี
นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ที่มาของการร่วมลงนามในครั้งนี้ก็เพื่อช่วยคนไทยได้มีแหล่งอาหารปลูกไว้รับประทานเองภายในบ้าานในสถานการณ์โควิด-19 กำลังระบาดรอบใหม่ ดังนั้นการมีเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพเป็นเรื่องสำคัญ จึงมีการส่งมอบเมล็ดพันธุ์คุณภาพตราศรแดงแก่คนไทยทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศจำนวน 100,000 ซอง ภายใต้โครงการ “ปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ครั้งที่ 2” ต้องขอขอบคุณบริษัท อีสเวสท์ ซีด จำกัด ที่จะร่วมกันขับเคลื่อนสังคมไทยสู่แผนปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร เพื่อนำการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีกว่า
นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า กรมการพัฒนาชุมชนได้มีการตั้งเป้าไว้ในระดับอาเซียนจะช่วยรัฐบาลในการเป็นกระบอกเสียงเชิญชวนหลากหลายประเทศเข้ามาศึกษา ดูงาน เยี่ยมชม นำแนวทางปฏิบัติที่ดีของประเทศไทยนำไปประยุกต์ใช้ เช่น กัมพูชา ลาว ภูฏาน โดยการน้อมนำแนวทางการพัฒนาของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ที่ทรงพระราชทาน เรื่อง ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และทฤษฎีใหม่ ให้กับพี่น้องชาวไทย
อย่างไรก็ตาม จากผลการตอบรับแผนปฏิบัติการ 90 วันในเฟสที่ 1 ประชาชนได้เข้าร่วมโครงการปลูกพืช ปลูกผัก ปลูกรักกับพช. มีครัวเรือนจากทั่วประเทศเข้าร่วมมากกว่า 10 ล้านครัวเรือน โดยประกาศเป็นปฏิบัติการ Quick Win 90 วัน ระหว่างวันที่ 1 เม.ย.-30 มิ.ย.2563 มีครัวเรือนเป้าหมายทั้งหมดจำนวน 12.9 ล้านครัวเรือน เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งว่ามีประชาชนทั่วประเทศร่วมปลูกผักสวนครัวถึง 12,601,491 ครัวเรือน คิดเป็น 97.11% พบว่า ได้รับประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมมีผักปลอดสารพิษไว้รับประทานในยามเกิดวิกฤต โดยที่ไม่ต้องซื้อหาจากข้างนอก ปลูกผักที่กิน กินผักที่ปลูก ประหยัดรายจ่าย เท่ากับเพิ่มรายได้ เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย กรมการพัฒนาชุมชน จึงมองไปข้างหน้าต่อยอดขับเคลื่อนกิจกรรม ปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ครั้งที่ 2 โดยเป้าหมายในครั้งนี้จะยิ่งเข้มข้นกว่าเฟส 1
“กระทรวงมหาดไทย ขอกราบขอบพระคุณผู้บริหารและทีมงามบริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน ผู้นำสตรี และคณะสงฆ์ ได้เป็นภาคีเครือข่ายที่ดีในการขับเคลื่อนงานอย่างต่อเนื่อง ทำให้สังคมเป็นสังคมแห่งความรัก ความสามัคคี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่พืชผักที่ปลูกจะสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 อย่างน้อยก็ช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน เท่ากับเพิ่มรายได้ คิดง่ายๆ จำนวน 12 ล้านครัวเรือนประหยัดเงินจากการซื้อผักครัวเรือนละ 50 บาท เท่ากับประหยัดเงินได้ 600 ล้านบาท/วัน 18,000 ล้านบาท/เดือน รวมแล้วประหยัดได้กว่า 200,000 ล้านบาท/ปี ทำให้เศรษฐกิจฐานรากของประเทศเกิดความมั่นคง มีความเข้มแข็ง อย่างยั่งยืนต่อไป” อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนกล่าว