รู้จัก "พี่เบ้ง-ทศพงศ์ จารุทวี" อดีตคู่เขย "เศรษฐา ทวีสิน"
หลังจาก “เศรษฐา ทวีสิน ”ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรรคเพื่อไทย หรือ “อุ๊งอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร ถือเป็นการเข้าสู่การเมืองอย่างเต็มตัว โดย เศรษฐา ประกาศพร้อมช่วยงานพรรคในลักษณะที่ถนัด ทั้งนี้ เศรษฐา คาดว่าเป็น 1 ใน 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของ พรรคเพื่อไทย
การเข้าสู่การเมืองเต็มตัวของ เศรษฐา ได้รับความสนใจยิ่ง และ ถูกรับน้องทางการเมืองทันที จากสองดาวดังทางการเมืองในขณะนี้ คือ “ตู่ จตุพร พรหมพันธุ์” และ “เฮียชู ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” โดยทั้งสองคนออกมาจี้ชี้ประเด็นในทำนองเดียวกันว่า เบื้องหลังของ เศรษฐา ที่เข้ามาลงการเมืองเต็มตัวในขณะนี้ ไม่ใช่เพราะ เป็นเพียงกลุ่มเพื่อนอดีตนายกรัฐมนตรีหญิง อย่างยิ่งลักษณ์ ชินวัตรเท่านั้น แต่ยังมีคนหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังคือ “ขงเบ้ง”
การเปิดชื่อ“ขงเบ้ง” ขึ้นมาของสองคน ทำให้คอการเมืองให้ความสนใจขึ้นมาทันทีว่า “ขงเบ้ง”คือใคร ? จะเป็นผู้ที่ให้คำปรึกษาทางกลยุทธ์เหมือนกับ “ขงเบ้ง” ในวรรณกรรมจีนอิงประวัติศาสตร์อย่าง “สามก๊ก”หรือไม่
ทั้งนี้จากการย้อนดูข้อมูลทั้งสายสัมพันธ์ในธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และสายสัมพันธ์ในกลุ่มเครือญาติที่เกี่ยวด้องกับ เศรษฐา ทวีสิน มีปรากฎชื่อของ “พี่เบ้ง”หรือ “ทศพงศ์ จารุทวี” อดีตผู้บริหาร N-PARK หรือ แนเชอรัล พาร์ค ในอดีตขึ้นมาอย่างน่าสนใจ
โดย “ทศพงศ์ จารุทวี” อดีตผู้บริหาร N-PARK หรือ แนเชอรัล พาร์ ถือว่ามีชื่อเสียงในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ก่อนจะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540 N-PARK หรือ แนเชอรัล พาร์ค บริษัทผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีเรื่องราวเป็นที่โจษขานและหวือหวามากที่สุดในประเทศไทยในขณะนั้น
โดยเฉพาะเมื่อ บริษัทแนเชอรัล พาร์คเข้าไปซื้อโครงการ สนามกอล์ฟปัญญารีสอร์ทและปัญญาฮิลล์ ของปัญญา ควรตระกูล สนามกอล์ฟวิลสันของ ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน และสันติ ภิรมย์ภักดี ในปี 2538 เป็นเงินเกือบ 8,000 ล้านบาท พร้อมๆ กับเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม และบ้านเดี่ยวจัดสรรหลายโครงการ
โดยในยุคเริ่มแรกนั้น บริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) เป็นเพียงบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่มีสไตล์การทำธุรกิจธรรมดาไม่หวือหวา เช่นเดียวกับท่วงทำนองและความเป็นไปของ “ทศพงศ์ จารุทวี”ผู้ถือหุ้นใหญ่ในขณะนั้น ที่ออกจะเป็นคนค่อนข้างเก็บตัวและพร้อมจะยืนอยู่หลังฉากมากกว่า
ความเป็นไปของบริษัทแนเชอรัล พาร์ค และ”ทศพงศ์” เริ่มมีเรื่องราวและสีสันมากขึ้นเมื่อไปซื้อโครงการ สนามกอล์ฟปัญญารีสอร์ทและปัญญาฮิลล์ ของปัญญา ควรตระกูล สนามกอล์ฟวิลสันของ ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน และสันติ ภิรมย์ภักดี ในปี 2538 เป็นเงินเกือบ 8,000 ล้านบาท พร้อมๆ กับเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม และบ้านเดี่ยวจัดสรรหลายโครงการ
แต่เมื่อเศรษฐกิจไทยประสบปัญหาวิกฤตขึ้นมาในปี 2540 บริษัทแนเชอรัล พาร์คก็ประสบปัญหาเช่นกันและต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการตามคำสั่งศาลด้วยหนี้สินกว่า 10,000 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2543
อย่างไรก็ตาม N-PARK ใช้เวลา 3 ปีในการระดมทุนจากพันธมิตร ผู้ถือหุ้นใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ก่อนจะได้รับคำสั่งจากศาลล้มละลายกลางยกเลิกการฟื้นฟูกิจการและกลับมาโลดแล่นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอีกครั้ง
โดยในช่วงปี 2547 “ทศพงศ์” เคยเผยถึงรายได้หลักของแนเชอรัล พาร์ค ในอนาคตว่าถูกกำหนดไว้ 2 ส่วน คือจากการขาย และรายได้จากการเช่า ที่มาสำคัญจากสองบริษัท คือ บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) และบริษัทแปซิฟิค แอสเซ็ทส์ จำกัด (มหาชน)
ทั้งนี้ บริษัทแสนสิริ เดิมทีมาจากการรวมตัวกันทำธุรกิจของตระกูลพี่ตระกูลน้องสองตระกูล คือ จูตระกูล และล่ำซำ โดยมีอภิชาติ ลูกชายคนที่ 2 ของชนาทิพย์ น้องสาวบัญชา ล่ำซำ ที่แต่งงานกับโชติ จูตระกูล เป็นผู้บริหารแสนสิริในรุ่นแรก
ขณะที่ ชดช้อย จูตระกูล น้องสาวของ โชติ จูตระกูล ได้แต่งงาน กับอำนวย ทวีสิน มีบุตรโทนคนเดียวคือ “เศรษฐา ทวีสิน” โดยขณะนี้ ถือเป็นรุ่นที่ 2 ทำหน้าที่ในการบริหารบริษัทของตระกูลทั้งนี้ เศรษฐา ทวีสิน ได้แต่งงานกับ พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน
ในขณะเดียวกัน ทศพงศ์ จารุทวี อดีตกรรมการของบริษัทแนเชอรัล พาร์ค จำกัด ก็คือน้องเขยของเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการบริษัท แสนสิริ เพราะน้องสาวของหมอพักตร์พิไล ทวีสิน คืออดีตภรรยาที่เลิกรากันมานานของ “ทศพงศ์ จารุทวี”
อย่างไรก็ตาม ในปี 2550 ความสัมพันธ์ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของแนเชอรัล พาร์ค ในแสนสิริ ก็สิ้นสุดลงเมื่อ N-PARK ขายหุ้นที่ถือครองอยู่กว่า 20% ให้กับกลุ่มผู้ลงทุนจากฮ่องกง และทำให้ N-Park ไม่ได้อยู่ในฐานะของการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับแรกของแสนสิริอีกต่อไป
วันนี้ ในวันที่ “เศรษฐา ทวีสิน” นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หมื่นล้าน ที่กระโดดลงเวทีการเมืองเต็มตัว ทำให้ถูกจับจ้อง และเปิดรับน้องทางการเมืองในทันที การพยายามเปิดตัวละครที่ใกล้ชิด โดยหยิบยก “ขงเบ้ง” ขึ้นมา ซึ่งบังเอิญไปพ้องกับชื่อเล่น “เบ้ง” ของ “ทศพงศ์ จารุทวี” อดีตนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังเช่นกัน และ จะเป็นคนที่ “จตุพร พรหมพันธุ์” และ “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” พยายามโยงว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการเข้ามาสู่การเมืองของ เศรษฐา หรือไม่ ยังต้องติดตามกันต่อไป