จับตาประชุมครม.19พ.ย.67 นายกฯอิ๊งค์เคาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
จับตาประชุมครม.19พ.ย.67 หลังนายกฯแพทองธารกลับถึงไทย นัดประชุมบอร์ดนโยบาย“กระตุ้นเศรษฐกิจ” ลุ้นแจกเงิน 10,000 บาท ตั้งคณะอนุฯ กลั่นกรองโครงการ 1.8 แสนล้าน ก่อนสรุปรายละเอียดเสนอครม.เห็นชอบ
เมื่อวันที่ 19 พ.ย.67 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้ว หลังจบภารกิจเข้าร่วมประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 31 ที่กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู ระหว่างวันที่ 10- 18 พฤศจิกายน67
ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี เวลา 09.30น. นายกฯแพทองธาร เยี่ยมชมนิทรรศการและการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ที่เข้าร่วมโครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก”
จากนั้น เวลา 10.00น.นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ณ ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล และในเวลา 13.00น.นายกฯแพทองธาร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 1/2567 ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล
นอกจากนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 1/2567 เวลา 13.00น.จะมีการหารือถึงเรื่องสำคัญเกี่ยวกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ในช่วงโค้งสุดท้ายปี 2567 และเพื่อผลักดันออกมาเป็นของขวัญปีใหม่ 2568 คาดว่ามาตรการที่จะออกมาครั้งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการประคับประคองเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไปได้
การประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เตรียมนำกลไกการขับเคลื่อนในลักษณะคล้ายกับบอร์ดเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10000 บาท ของรัฐบาลก่อนโดยอาจมีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาหนึ่งชุด เพื่อมากลั่นกรองโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของหน่วยงานต่าง ๆ ก่อนจะสรุปและเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
การขับเคลื่อนการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งนี้ รัฐบาลจะมีกรอบวงเงินที่สามารถนำมาใช้เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ เบื้องต้นประมาณ 187,700 ล้านบาท จากงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ
แต่หากวงเงินในการดำเนินโครงการต่าง ๆ จากงบกลางรายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจฯ ไม่เพียงพอ ก็ยังมีแหล่งเงินจากงบกลางรายการรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน หรือจำเป็น รวมไปถึงเงินงบประมาณของหน่วยงานต่าง ๆ อีกส่วนหนึ่งด้วย ซึ่งทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลจะตัดสินใจใช้เงินก้อนไหนออกมาก่อน
ก่อนหน้านี้ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในเบื้องต้นว่า จะมีมาตรการระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว ของขวัญปีใหม่ และหนึ่งในมาตรการสำคัญคือ โครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10000 บาท จะเป็นหนึ่งในมาตรการที่จะอยู่ภายใต้การหารือของคณะกรรมการชุดนี้ด้วย แต่ขอให้รอข้อสรุปอีกครั้ง เช่นเดียวกับโครงการของกระทรวงอื่น ๆ เพิ่มเข้ามาอีก เช่น โครงการของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงพาณิชย์ เป็นต้น
ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค (JTC) ไทย-กัมพูชา เพื่อเจรจาตามบันทึกความเข้าใจระหว่างราชอาณาจักรไทย-กัมพูชา เกี่ยวกับการอ้างสิทธิทับซ้อนทางทะเลในอ่าวไทย ปี พ.ศ.2544 หรือ MOU44 ว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพิ่งเดินทางกลับมาถึงไทยยังไม่ทราบว่าจะพร้อมเข้ามาทำงานหรือไม่ แต่ยังไม่ได้คุยกัน ต้องมีการวางแผนก่อน
"การตั้งคณะกรรมการJTC เป็นเรื่องที่กระทรวงการต่างประเทศทำการบ้านแล้วมาคุยกัน ตนยังไม่ทราบว่าจะมีการนำรายชื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พรุ่งนี้ ซึ่งมองว่าไม่น่าจะทัน"