โค้งสุดท้าย! “เท้ง-ณัฐพงษ์” นำทีม พรรคประชาชน ปราศรัยใหญ่สงขลา

พรรคประชาชนเปิดเวทีปราศรัยหาเสียงช่วย “นิรันดร์ จินดานาค” ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.สงขลา หมายเลข 2 โดยมีแกนนำ สส. และผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ร่วมปราศรัยและพบปะประชาชนที่มารับฟังการปราศรัยอย่างคับคั่ง นำโดย ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน, ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน, ภคมน หนุนอนันต์ รองโฆษกพรรคประชาชน, ชัยธวัช ตุลาธน ผู้ช่วยหาเสียง และ อรรถพล บัวพัฒน์ ผู้ช่วยหาเสียง

ในส่วนของณัฐพงษ์ได้ขึ้นปราศรัยกับพี่น้องประชาชนว่า วันนี้ตนดีใจที่ได้มาขึ้นปราศรัยกับพี่น้องชาวสงขลาในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชน ส่วนตัวตนผูกพันกับพี่น้องชาวสงขลาเป็นอย่างยิ่ง ได้มีโอกาสเดินทางมาเยี่ยมพี่น้องชาวสงขลาที่ประสบอุทกภัยเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาร่วมกับคุณนิรันดร์ ได้เห็นการทำงานของเขามาโดยตลอด

ถือเป็นคนที่ชัดเจนทั้งอุดมการณ์และความพร้อม อยู่กับพวกเรามาตั้งแต่อดีตอนาคตใหม่ ก้าวไกล และพรรคประชาชน เรียกได้ว่ากรีดเลือกออกมาเป็นสีส้ม คุณนิรันดร์เคยประกอบอาชีพเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินและข้าราชการครู คลุกคลีมีประสบการณ์ในการทำงานมาแล้วทั้งภาครัฐและเอกชน จึงรู้ว่าการเป็นนายก อบจ.สงขลา เราจะพัฒนาเมืองสงขลาได้อย่างไร

การจะพัฒนาเมืองสงขลาให้ดีนั้นเราต้องทั้ง “ดูแลคนใน” และ “ใส่ใจคนนอก” แต่ที่ผ่านมาเชื่อหรือไม่ว่า จ.สงขลามีอัตราเด็กที่มีภาวะผอมแห้งสูงถึง 26% มีเด็กอายุ 7-15 ปีที่ไม่ได้อยู่ในระบบการศึกษาขั้นพื้นฐานกว่า 24,000 คน ขณะที่ในด้านสาธารณสุข สงขลาต้องเผชิญกับสภาวะผู้ป่วยล้นโรงพยาบาล ประชาชนต้องเดินทางไปใช้บริการโรงพยาบาลขนาดใหญ่ในตัวเมืองจนเกิดความกระจุกตัว 

นอกจากนี้หากพูดถึง จ.สงขลา หลายคนจะนึกถึงการท่องเที่ยว เพราะสงขลาเป็นจังหวัดท่องเที่ยวอันดับ 6 ของประเทศไทย มีทะเลสาบ มีวัฒนธรรม และมีด่านสะเดาเป็นจุดเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน แต่ตลอดช่วงเวลา 6 ปีที่ผ่านมารายได้ของชาวสงขลาแทบไม่เพิ่มขึ้นเลย รายได้พี่น้องชาวสงขลาเคยอยู่ในอันดับที่ 3 ของภาคใต้ แต่ตอนนี้ลดลงมาอยู่อันดับที่ 6 ทำให้คนสงขลามีคุณภาพชีวิตที่ยังดีไม่พอ ไม่มีเงินพอกินพอใช้ ซึ่งโซ่ตรวนเหล่านี้เกิดจากการจัดสรรงบประมาณของ อบจ.ที่ไม่ถูกต้อง โดยการจัดสรรงบประมาณของ อบจ.สงขลาที่ผ่านมาทุ่มไปกับการโยธาหรือการสร้างถนนมากเป็นอันดับ 1 คิดเป็น 34.6% หรือ 530 ล้านบาท

ณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า ดังนั้นหากคุณนิรันดร์ได้รับโอกาสเข้ามาทำหน้าที่เป็นนายก อบจ.สงขลา จะปรับปรุงระบบการจัดสรรงบประมาณใหม่ เพื่อดูแลคนในและใส่ใจคนนอกให้มากขึ้น โดยในส่วนของการดูแลคนใน เรามีนโยบายสำคัญที่จะช่วยพัฒนาเด็กและปรับรากฐานการศึกษาของคนสงขลาให้ดีและมีคุณภาพ เช่น นโยบายกล่องแรกเกิด (Babybox) นโยบายเพิ่มทุนการศึกษาเพื่อลดเด็กหลุดจากระบบ ส่วนในด้านสาธารณสุข เรามีนโยบายอยู่ไหนก็ใกล้หมอ เพิ่มศักยภาพโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ลดภาระการเดินทางเข้าไปยังโรงพยาบาลในตัวเมือง ซึ่งจะสามารถลดรายจ่ายได้ในทุกๆ เดือนของพี่น้องประชาชนได้

ส่วนในด้านการใส่ใจคนนอก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวสงขลา เรามีนโยบายจัดสรรงบประมาณเพื่อพัฒนาภาคการท่องเที่ยวของ จ.สงขลามากขึ้น เช่น นโยบาย “12 เดือน 12 เทศกาล” ไม่ว่าจะฮายหรือโลว์ซีซั่นก็มาท่องเที่ยวสงขลาได้ตลอดทั้งปี การสร้างเส้นทางท่องเที่ยวแบบ 1 วัน (1 Day Trip) เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย พร้อมกับระบบขนส่งสาธารณะที่ดีและปลอดภัย การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทะเลสาบสงขลา การยกระดับสินค้า GI ทั้งส้มโอหอมควนลัง ส้มจุกจะนะ มะม่วงเบาสงขลา ให้สามารถเพิ่มมูลค่าได้ เป็นต้น

ณัฐพงษ์กล่าวทิ้งท้ายว่า ในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ. นี้เป็นวันเลือกตั้งนายก อบจ. ผู้ที่จะเข้าไปทำหน้าที่นายก อบจ.สงขลาคนต่อไปต้องบริหารงบประมาณกว่า 6 พันล้านบาทตลอด 4 ปีในการดำรงตำแหน่ง ปากกาของทุกท่านจึงมีมูลค่า 6,000 ล้านบาท 

“ดังนั้น นิรันดร์คือคำตอบสุดท้าย 1 ก.พ. นี้เลือกนิรันดร์ เบอร์ 2 ทำทันที เลือกเพื่อปลดล็อกศักยภาพของชาวสงขลา เลือกเพื่อพี่น้องชาวสงขลาทุกคน เลือกเพื่อเปลี่ยนสงขลาให้ไม่เหมือนเดิมครับ”  ณัฐพงษ์กล่าว