posttoday

นายกฯอิ๊งค์มอบอนุทินเรียกผู้ว่าฯทั่วประเทศถกแก้ฝุ่นPM2.5

27 มกราคม 2568

นายกฯแพทองธาร มอบ อนุทิน รองนายกฯและรมว.มหาดไทย เรียกประชุมผู้ว่าฯทั่วประเทศ แก้ฝุ่น PM2.5 เปิดข้อ6สั่งการเดิมพร้อมย้ำห้ามเผา“เอกนัฏ พร้อมพันธุ์”ชี้รับซื้ออ้อยไม่เผา ได้ตามเป้า

นางสาวแพทองธาร​ ชินวัตร​ นายก​รัฐมนตรี​ กล่าวถึงการเรียกประชุมเพื่อแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ว่า​ ได้สั่งการให้นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียกประชุมในส่วนของผู้ว่าราชการจังหวัดไปแล้ว และไม่มีการเรียกประชุมเพิ่มเติม

ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายกฯแพทองธาร มีข้อสั่งการระยะสั้นแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ประกอบด้วย 

1. ขอความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐและบริษัทเอกชน ให้เจ้าหน้าที่และพนักงานสามารถทำงานแบบ WFH เพื่อลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวและสั่งการกระทรวงคมนาคมให้สนับสนุนยกเว้นค่ารถไฟฟ้า-ค่ารถเมล์ ภายใต้กำกับของรัฐเป็นเวลา 7 วัน เพื่อลดปริมาณฝุ่นที่เกิดจากรถยนต์

2.ให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตรเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด หากมีความชื้นมากเพียงพอ ขอให้ปฏิบัติการฝนเทียมเจาะช่องบรรยากาศทั่วกรุงเทพฯ

3.ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตรวจสอบทุกพื้นที่อย่างใกล้ชิด หากพบเห็นการเผา ขอให้ดำเนินคดีตามกฎหมายทันที

4. ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จัดตั้งแอปพลิเคชันสำหรับรับแจ้งเหตุการเผา ให้พี่น้องประชาชนสามารถรายงานจุดที่เกิดการเผาได้อย่างรวดเร็วและเร่งแก้ปัญหาที่พบในทันที

5. ขอความร่วมมือไปยังผู้ว่าฯ ชัชชาติ ให้กวดขันไซต์ก่อสร้างที่ไม่คลุมผ้าป้องกันฝุ่นตามกฏหมายโดยเคร่งครัด และช่วงอากาศปิด ขอความร่วมมือให้เลื่อนการก่อสร้างที่ทำให้เกิดฝุ่นละอองออกไปก่อน

6.ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกท่าน กวดขันรถควันดำโดยเคร่งครัด

ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มีข้อสั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดและนายอำเภอทั่วประเทศให้พิจารณาออกมาตรการ “สกัดการเผา” ทั้งในส่วนพื้นที่ทางการเกษตรและขยะมูลฝอย ซึ่งเป็นต้นตอสำคัญของการเกิดฝุ่น PM 2.5 ทันที” 

ทุกจังหวัดอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงมหาดไทยในฐานะกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ นายอำเภอต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด และร่วมกันระดมสรรพกำลังทุกภาคส่วน 

สิ่งสำคัญที่สุดอีกกลไกหนึ่ง คือ กลไกกำนันผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะท่านคือผู้ที่มีความสัมพันธ์กับชาวบ้านโดยตรง ต้องประกาศห้ามเผาในที่โล่ง ห้ามเผาอย่างเด็ดขาด เราต้องช่วยกันหาวิธีการที่จะช่วยทำให้เกิดมลภาวะน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ด้วยการไถกลบฟางข้าวโพด "เปลี่ยนตอซังข้าวโพดเป็นนางกวัก" 

ให้เขามาเจอธรรมชาติแบบนี้ อากาศแบบนี้ เราต้องร่วมกันกวักเงิน กวักทอง กวักนักท่องเที่ยวให้มาช่วย ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยหรือชาวต่างประเทศก็ล้วนแล้วแต่เข้ามาทำประโยชน์ให้กับพวกเรา 

ด้านนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า จากข้อมูลปัจจุบัน ไม่มีโรงงานใดใน 58 โรงงาน รับอ้อยเผาต่อวันเกินกว่าที่กำหนด เฉลี่ยอยู่ที่ 10-11% ถือว่าเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์และมีการพูดคุยกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และรมว.พลังงาน เพื่อนำกลับอ้อยและใบไปผลิตไฟฟ้า

นายเอกนัฏ กล่าวว่า เกษตรกรคงไม่มีการเผาอ้อยเพื่อท้าทายรัฐบาล และไม่มีโรงงานใดกล้าฝ่าฝืนมาตรการการรับซื้ออ้อย แต่การเผาไร่อ้อยนั้น ยอมรับว่ายังมีอยู่บ้าง บางพื้นที่เป็นอุบัติเหตุ แต่ในบางพื้นที่เครื่องจักรเข้าไม่ถึง ทำให้ต้องมีการเผา ผู้รับเหมาตัดอ้อยยังยึดติดกับวิธีเดิมๆ

หากยังคงมาตรการเช่นนี้จนถึงสิ้นฤดูกาลปลายเดือนมี.ค. – เม.ย.68 จะสามารถช่วยเซฟพื้นที่การเกษตร และการเผาในพื้นที่โล่งเป็นล้านไร่ อย่างไรก็ตาม เราจะดำเนินการอย่างเข้มงวด และหลังจากนี้จะต้องมีการออกแบบระบบอย่างยั่งยืนยืน เพราะไม่ชอบการแก้ไขปัญหาแบบเฉพาะหน้าหรือปลายเหตุ