Spot the dog หุ่นยนต์สุนัขซึ่งใช้ในการสำรวจพื้นที่อันตราย
เราเคยเห็นหุ่นยนต์มาหลายรูปแบบ ตั้งแต่หุ่นยนต์ที่ใช้ในงานบริการ โรงงานอุตสาหกรรม หรือแม้แต่อาวุธสงคราม นำไปสู่การเกิดข้อโต้แย้งมากมาย แต่หุ่นยนต์ที่ทุกคนต่างยอมรับว่ามีประโยชน์คือ หุ่นยนต์ที่เข้าไปสำรวจพื้นที่อันตรายแบบหุ่นยนต์สุนัขที่กำลังจะพูดถึง
การเข้ามาแทนที่มนุษย์ของหุ่นยนต์คือเรื่องที่พบได้ทั่วไปในยุคหลัง หลายท่านอาจไม่ชอบใจกับการถูกหุ่นยนต์แย่งตำแหน่งหน้าที่ แต่มีบางส่วนเช่นกันที่การเข้ามาของหุ่นยนต์ช่วยพัฒนาชีวิตการทำงานของพวกเขามากขึ้น โดยเฉพาะในงานสำรวจพื้นที่อันตรายซึ่งนำไปสู่การเสียชีวิตของผู้ปฏิบัติงาน หุ่นยนต์จึงตอบโจทย์ส่วนนี้เป็นอย่างยิ่ง
ล่าสุดจึงมีการคิดค้นหุ่นยนต์สุนัขไว้ใช้สำหรับงานสำรวจในการตรวจสอบและก่อสร้างอาคารในที่สุด
Spot หุ่นยนต์สุนัขที่ออกแบบเพื่อให้สำรวจโครงสร้าง
ผลงานนี้เป็นความร่วมมือระหว่างบริษัท Boston Dynamics, Balfour Beatty และ Trimble ออกมาเป็นหุ่นยนต์สุนัข Spot the dog เพื่อนำไปใช้งานในการสำรวจโครงสร้างและพื้นที่อันตรายในงานก่อสร้าง ตั้งแต่อาคารร้าง โครงสร้างซึ่งได้รับความเสียหาย หรือแม้แต่ภายในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
ความสำเร็จในครั้งนี้เกิดขึ้นได้จากความร่วมมือของสามบริษัท โดย Boston Dynamics เป็นผู้รับผิดชอบการออกแบบโครงสร้างการทำงานของตัวหุ่น, Balfour Beatty ดูแลด้านการพัฒนาโปรแกรมที่ให้หุ่นยนต์ใช้สำหรับเคลื่อนไหว ส่วน Trimble ดูแลด้านอุปกรณ์ตรวจสอบและสแกนพื้นที่ซึ่งติดตั้งลงบนตัวหุ่น
หุ่นยนต์สุนัขจะเคลื่อนไหวไปตามพื้นที่เป้าหมายที่กำหนดเพื่อทำการสำรวจสภาพแวดล้อม อาศัยเครื่องสแกน 3 มิติเพื่อตรวจสอบขนาดและลักษณะของพื้นที่ ด้วยรูปร่างที่อาศัยการเดินสี่ขาและกำลังขับเคลื่อนช่วยให้ตัวหุ่นข้ามผ่านสิ่งกีดขวาง เคลื่อนไหวบนทางลาด และใช้งานได้ในทุกสถาพแวดล้อม โดยสามารตรวจสอบการทำงานและรับข้อมูลได้แบบเรียลไทม์
เป้าหมายของการพัฒนาหุ่นยนต์สุนัขนี้เพื่อทดแทนงานส่วนที่มนุษย์ไม่สามารถทำได้สะดวกในงานก่อสร้าง ตัวหุ่นจะช่วยเข้าไปสำรวจโครงสร้างของพื้นที่เพื่อให้แน่ใจในความปลอดภัย ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุที่อาจนำไปสู่การเสียชีวิตในขั้นตอนก่อสร้างได้อีกมาก
ปัจจุบันหุ่นยนต์สุนัขตัวนี้มีทำงานด้วยแบตเตอรี่ซึ่งติดตั้งไว้ภายใน โดยระยะเวลาเคลื่อนไหวยาวนานที่สุดอยู่ราว 45 นาที จากนั้นต้องชาร์จไฟเพื่อเติมพลังงานเป็นเวลา 45 นาที ขึ้นอยู่กับน้ำหนักและอุปกรณ์ที่ติดตั้ง อีกทั้งตัวหุ่นยังรองรับการเดินเข้าแท่นชาร์จเพื่อเติมพลังงานได้เองโดยอัตโนมัติอีกด้วย
ความสำเร็จครั้งใหญ่และก้าวต่อไปในการใช้งานหุ่นยนต์สุนัข
ตัวหุ่นเพิ่มความสะดวกทำให้เราไม่ต้องส่งคนเข้าไปสำรวจพื้นที่รกร้าง ซึ่งบางแห่งเป็นอันตรายจนอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตในการส่งคนเข้าไปสำรวจด้วยอุปกรณ์ชนิดเดียวกัน เมื่อเปลี่ยนมาเป็นการใช้หุ่นยนต์จะช่วยลดความเสียหายส่วนนี้รักษาชีวิตได้อีกมาก
ปัจจุบัน Spot เริ่มมีการใช้งานตามงานก่อสร้างซึ่งเป็นอันตราย ช่วยระบุรายละเอียดของโครงสร้างแต่ละพื้นที่ได้แม่นยำ ด้วยการออกคำสั่งเพียงไม่กี่ครั้งก็สามารถเฝ้ารอการทำงานของตัวหุ่นผ่านทางหน้าจอ ตัวหุ่นจะทำการสำรวจพื้นที่โดยอัตโนมัติและเมื่อพลังงานหมดก็จะกลับเข้ามาที่แท่นชาร์จเอง เพื่อเตรียมพร้อมสำรวจพื้นที่ตำแหน่งต่อไปโดยอัตโนมัติ
นอกจากนี้ตัวหุ่นยังเริ่มมีการนำไปใช้งานในด้านอื่นแล้วเช่นกัน หลายบริษัทเริ่มให้ความสนใจในการใช้หุ่นยนต์สุนัขในการรักษาความปลอดภัยจนมีคำสั่งซื้อเข้ามาต่อเนื่อง หนึ่งในบริษัทที่ให้ความสนใจในแนวทางนี้คือ Tesla ที่ทำการสั่งซื้อหุ่นยนต์สุนัขไปจำนวนหนึ่งเพื่อใช้ในการเดินตรวจตราภายในโรงงาน
แน่นอนการพัฒนาหุ่นยนต์ของพวกเขาไม่ได้หยุดลงเที้ ยังมีแผนการพัฒนาเทคโนโลยีอีกหลายด้านเพื่อตอบสนองการใช้งานรูปแบบต่างๆ เช่น การติดตั้งเซ็นเซอร์ LIDAR แบบที่ใช้งานในรถยนต์ไร้คนขับ, GPS เพื่อช่วยในการระบุพิกัดตำแหน่งแบบเรียลไทม์, กล้องความละเอียดสูงเพื่อช่วยเพิ่มเติมรายละเอียด หรือแม้แต่ WIFI เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อข้อมูลได้จากทุกที่บนโลก
ทางทีมพัฒนาคาดหวังว่าต่อไปในอนาคต หุ่นยนต์สุนัขของพวกเขาจะกลายเป็นกำลังหลักในการสำรวจ ที่จะช่วยให้การทำงานของวิศวกรทั้งหลายง่ายดายขึ้น เมื่อการสำรวจโครงสร้างไม่จำเป็นต้องเข้าใปในพื้นที่อีกต่อไป แต่สามารถทำงานจากระยะไกลเพียงอาศัยการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยอัตโนมัติจากหุ่นยนต์ก็เพียงพอ
จริงอยู่ว่าหุ่นยนต์สุนัขในตอนนี้รองรับการใช้งานในโรงงานและสิ่งปลูกสร้างเป็นหลัก แต่ไม่แน่ว่าในอนาคตหุ่นยนต์ตัวนี้อาจรองรับสถานการณ์ได้หลากหลาย ตั้งแต่ใช้ในการสำรวจซากปรักหักพัง งานกู้ภัย ไปจนการสำรวจทรัพยากรธรรมชาติต่างๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถหลายด้านให้แก่มนุษย์อีกมาก
คงต้องรอดูต่อไปว่านอกจากการสำรวจโครงสร้างและรักษาความปลอดภัย หุ่นยนต์สุนัขนี้จะถูกนำไปใช้ในแนวทางใด
ที่มา