posttoday

สถ.สานต่อโครงการพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯพัฒนาอาชีพยั่งยืน

13 ตุลาคม 2561

สถ.สานต่อพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ประชุมข้าราชการกรุงเก่าติดตามความคืบหน้าการดำเนินงาน "โครงการพัฒนาอาชีพอย่างยั่งยืน"สร้างรายได้และลดรายจ่ายในครัวเรือน

สถ.สานต่อพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ประชุมข้าราชการกรุงเก่าติดตามความคืบหน้าการดำเนินงาน "โครงการพัฒนาอาชีพอย่างยั่งยืน"สร้างรายได้และลดรายจ่ายในครัวเรือน

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินงาน "โครงการพัฒนาอาชีพอย่างยั่งยืนในพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี" โดยมี ดร.จักรกฤษณ์ ทองทับ กองงานในพระองค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางสาวอินทิรา เจียระสุพัฒน์ ท้องถิ่นจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายวัชระ กระแสร์ฉัตร์ นายอำเภอลาดบัวหลวง นางสดสวย เสาวกูล กำนันตำบลพระยาบันลือ นายวีระชัย กุลสวัสดิ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลพระยาบันลือ และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมองค์กรบริหารส่วนตำบลพระยาบันลือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

นายสุทธิพงษ์กล่าวว่า โครงการพัฒนาอาชีพอย่างยั่งยืนในพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีนี้ เป็นโครงการที่สืบเนื่องมาจากที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงทราบถึงสภาพความเป็นอยู่สภาวะเศรษฐกิจและปัญหาของชุมชนในพื้นที่ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ดำเนินงาน โครงการพัฒนาอาชีพอย่างยั่งยืนในพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อสร้างรายได้และลดรายจ่ายในครัวเรือน สร้างความมั่นคงทางด้านอาชีพแก่ราษฎร ซึ่งการดำเนินงานโครงการพัฒนาอาชีพในพระราชดำรินั้น จะส่งผลให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนการผลิต มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการประกอบอาชีพ และการนำผลผลิตมาแปรรูปเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ สร้างงานสร้างรายได้มีอาหารเพียงพอบริโภคในครัวเรือนโดยไม่ต้องซื้อหา ตลอดจนเป็นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แนวทางการดำเนินโครงการจึงประกอบไปด้วยโครงการและกิจกรรมย่อย ได้แก่ โครงการลดต้นทุนการทำนาและส่งเสริมการปลูกพืชหลังนา โครงการปลูกพืชอาหารสัตว์และผลิตหญ้าฟางอัดแห้ง กิจกรรมสร้างรายได้และลดรายจ่ายในครัวเรือน เช่น การปลูกผักปลอดสารพิษ ส่งเสริมการเลี้ยงปลาสำหรับครัวเรือนและเพื่อจำหน่าย กิจกรรมสนับสนุนการเรียนการสอนและส่งเสริมอาชีพในโรงเรียน การจัดตั้งศูนย์เรียนรู้การพัฒนาอาชีพอย่างยั่งยืนในพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเห็นได้ว่า สมเด็จพระเทพฯ ทรงมีพระราชทานเป็นห่วงเป็นใยพสกนิกรทุกคน เราทุกคนจึงถือว่าได้รับโอกาสที่ดี ที่ได้มีส่วนร่วมในการที่จะช่วยกันขับเคลื่อนเพื่อให้บรรลุถึงพระราชประสงค์ของพระองค์ท่าน ที่ทำให้พี่น้องประชาชนของตำบลพระยาบันลือได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

นายสุทธิพงษ์กล่าวในตอนท้ายเพิ่มเติมถึงโครงการเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำแบบสมดุล ด้วยหลักการธนาคารน้ำใต้ดิน ที่กรมฯ กำลังขับเคลื่อน เพื่อนำไปสู่การบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาด้านการบริหารจัดการน้ำ ขาดแคลนน้ำในฤดูร้อน เกิดภัยแล้ง ภาวะฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานาน ฤดูฝนมีน้ำหลาก เกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่ให้เกิดความสมดุล ช่วยให้มีน้ำอุปโภคและบริโภคได้ตลอดทั้งปี เพราะประโยชน์ของโครงการธนาคารน้ำใต้ดินระบบปิดนี้ จะเป็นโครงการที่สามารถแก้ปัญหาในการบริหารจัดการน้ำได้ ให้สามารถนำน้ำขึ้นมาใช้เพื่อการบริโภคและทำการเกษตร ทั้งยังส่งเสริมการประกอบอาชีพและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ได้ด้วย รวมถึงขอให้ทุกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)  ช่วยกันดูแลบ้านเมืองให้สะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย โดยผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะต้องช่วยเน้นย้ำในเรื่องการสร้างจิตสำนึก ให้สังคมตระหนักรู้ถึงหลักการ 3Rs หรือ 3ช (ใช้น้อย - Reduce /ใช้ซ้ำ -Reuse / นำกลับมาใช้ใหม่ - Recycle) ร่วมกันคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง โดยให้ผู้บริหารท้องถิ่นและท้องที่ เป็นแกนนำหลักในการสร้างจิตสำนึก และสร้างความเข้าใจให้แก่ประชาชน รวมถึงร่วมกันสานต่อแนวทางของ ดร.ปฤถา พรหมเลิศ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เกี่ยวกับการบริหารจัดการขยะตั้งแต่ต้นทาง คือ ครัวเรือน โดยช่วยกันจัดทำ “ถังขยะอินทรีย์หรือขยะเปียกครัวเรือน” ในครัวเรือนของตนให้ครบด้วย สิ่งที่คล้ายคลึงกันของการทำโครงการธนาคารน้ำใต้ดิน และการจัดทำถังขยะเปียกครัวเรือนนี้ นั่นก็คือสามารถทำได้ด้วยตนเองนั่นเอง

หน้าที่หลักของพวกเราทุกคน คือต้องช่วยกัน “บำบัดทุกข์บำรุงสุข” ให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งในวันนี้ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ได้ช่วยกันพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่ และขอให้ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้ช่วยกันยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนให้ดีขึ้น เพื่อที่จะได้เติบโตเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่าของประเทศชาติได้อย่างยั่งยืน นายสุทธิพงษ์กล่าว