เปิดแถลงการณ์ 3 องค์กรศาสนา ค้าน "สถานบันเทิงครบวงจร" ที่มีกาสิโน

องค์กรด้านศาสนาในประเทศไทยทั้ง 3 ศาสนา ได้แก่ พุทธ คริสต์ และอิสลาม ได้ออกแถลงการณ์แสดงถึงจุดยืนร่วมกันในการคัดค้านร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ Entertainment Complex ซึ่งมีการบรรจุเรื่องการอนุญาตให้มีการเปิดกาสิโนในประเทศไทย โดยระบุว่าขัดต่อหลักคำสอนทางศาสนาและอาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสังคมไทยในระยะยาว ดังนี้ 
 
 

แถลงการณ์จากสภาคริสตจักรในประเทศไทย
 

สภาคริสตจักรในประเทศไทย นำโดย ศาสนาจารย์ ดร.บุญรัตน์ บัวเย็น ประธานสภาคริสตจักรในประเทศไทย ได้ส่งหนังสือที่ลงวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2568 ถึงนายกรัฐมนตรี เรื่อง "ขอคัดค้าน (ร่าง) พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ...."

 

ในหนังสือระบุว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้การนำเสนอ (ร่าง) พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร โดยมีการบรรจุ (ร่าง) พรบ. ฉบับดังกล่าวนี้เข้าวาระการประชุม เพื่อดำเนินประชุมพิจารณาวาระ 1 ในวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2568 ซึ่งเป็นที่ทราบโดยทั่วไปแล้วนั้น

 

สภาคริสตจักรในประเทศไทย เป็นองค์การคริสต์ศาสนานิกายโปรเตสแตนท์ ขอยืนยันถึงเจตนารมณ์ของคริสตจักร โรงเรียน และโรงพยาบาล ซึ่งมีพันธกิจในการเป็นครูสอนศีลธรรมแก่วงมนุษยชาติ มีหน้าที่ประกาศ สั่งสอน และ อบรม หลักการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องตามระเบียบของสังคมแห่งความดีและประชาชนไทย

สภาคริสตจักรฯ ขอยืนยันในหลักคำสอนของพระคริสตธรรมคัมภีร์ ที่มีข้อห้ามและบทลงโทษเกี่ยวกับเรื่องนี้ เราไว้อย่างชัดเจน

 

จึงขอแสดงจุดยืนในการคัดค้านอย่างหนักแน่น และ ขอเรียกร้อง นายกรัฐมนตรีผ่านไปยังคณะรัฐมนตรี และทุกพรรคการเมือง ได้โปรดทบทวน ยุติ ระงับ (ร่าง) พระราชบัญญัติฯ ดังกล่าวนี้ด้วย
 

โดยเฉพาะการออกใบอนุญาตให้มีการพนันหรือเปิดบ่อนคาสิโน ผ่านสถานบันเทิงครบวงจร จะส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อสังคมไทย เป็นการบั่นทอนชีวิตคนในสังคมไทยไปสู่ปัญหาเรื่องสังคมด้านอื่น ๆ ตามมาอีกมากมาย 

 

อีกทั้งยังขัดต่อศีลธรรม พวกเราจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลตระหนักถึงบทบาทในการปกป้องเยาวชนและประชาชน ด้วยการออกกฎหมายที่ชอบธรรม เป็นกฎหมายที่สอดคล้องกับหลักศีลธรรมของมนุษย์และเป็นไปตามเหตุผลที่ถูกต้องตามคลองธรรม เป็นกฎหมายที่นำมาซึ่งประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชนและของสังคมไทยอย่างยั่งยืนด้วยเถิด

 

ทั้งนี้ การพัฒนาเศรษฐกิจควรจะเป็นการพัฒนาที่ถูกต้องตามหลักคุณธรรม ศีลธรรม และ จริยธรรมด้วย เพื่อจะนำไปสู่การพัฒนาและนำมาซึ่งความสงบและผาสุกให้กับประเทศชาติได้อย่างยั่งยืนสืบไป

 

 

 

แถลงการณ์จากพุทธสมาคมแห่งประเทศไทย
 

พุทธสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ออกแถลงการณ์มีเนื้อหาระบุว่า พระพุทธศาสนาซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 1 แห่งรัตนโกสินทร์ ทรงสังคายนาพระไตรปิฎก ครั้งที่ 9 ไว้เป็นหลักฐานจนทุกวันนี้

 

มีพระพุทธธรรมเป็นคำสอนเป็นที่ประจักษ์ต่อวงวิชาการและวิทยาศาสตร์ ว่าเป็นกระบวนการค้ำยันให้สังคมมนุษย์ชาติ ไม่จำกัดเพศ ผิวพรรณ เชื้อชาติ ให้มีความเจริญพัฒนารุ่งเรือง อย่างสถาพรมั่นคง เป็นอารยธรรมของมนุษย์ มีความศิวิไลซ์และอนาคตตราบนานเท่านาน

 

ความเจริญรุ่งเรือง ความมั่นคงของชาติ มิได้อาศัยเพียงการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการที่นำประชาชนให้หลงโหลในกิเลสหรือเครื่องเศร้าหมอง คือ อบายมุข แต่ให้ทุกคนมีศีลธรรมจากคำสอนในพระพุทธธรรม มากำกับตนเองให้มีคุณธรรม จากนั้นจึงแสดงออกมาให้คนอื่นหรือชาติอื่น ๆ รู้ว่าเราเป็นมนุษย์ เป็นชาติแห่งอารยธรรม คือ มีจริยธรรมนั่นเอง

 

นายกรัฐมนตรี เป็นสุภาพสตรี มีบุตรและธิดาในวัยเด็กที่น่ารักเหมือนน้ำใสสะอาด กำลังเจริญเติบโตเป็นกำลังสำคัญของชาติ จะเป็นคนรุ่นใหม่ในยุคดิจิทัล จะเป็นเยาวชนผู้มีอนาคตของชาติ

 

หากได้เข้าใจว่า ชาติจะเจริญขึ้นนั้นกับการทำตามคำสอนของพระพุทธธรรม เช่น วุฒิธรรม โดยเฉพาะข้อ 4 คือ ธรรมานุธรรม-ปฏิบัติ (ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม) คือ ธรรมะที่ค้ำชูให้เกิดความเจริญรุ่งเรือง โดยปัจเจกบุคคล ใช้ธรรมะนำทางชีวิต มิให้มีการประกอบอาชีพด้วยกิจกรรมที่ตรงข้ามกับศีล 5 โดยเฉพาะในศีลข้อ 2 และข้อ 5 อันจะนำความเจริญมาสู่ปวงชนชาวไทยและชาติไทยในที่สุด

 

การที่รัฐบาลจะดำเนินการให้มี Entertainment Complex (EC) โดยอ้างว่ามีในต่างประเทศและมีประโยชน์นั้นเป็นการรับรู้ข้อมูลด้านแคบและขาดวิสัยทัศน์ เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่ไม่ต้องพึ่งเศรษฐกิจจาก EC เลย

 

แต่ประเทศไทยมีแผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ หรือ สุวรรณภูมิมีทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่เป็นเอกลักษณ์ของโลก การนำเศรษฐกิจนี้จะเป็นการให้วิสัยทัศน์ที่เบี่ยงเบนต่อลูกหลานของท่านนายกรัฐมนตรีให้เข้าใจผิดว่า ปัจจัย 5 ไม่สำคัญ

 

แถลงการณ์ยังได้สรุปว่า พุทธสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และเครือสมาคมพระพุทธศาสนาทั่วราชอาณาจักร ได้ร่วมกันมีปฏิญญากรุงเทพมหานคร 2567 ได้แก่ 8 ประการ (ฉบับย่อ) และได้นำเสนอความเรียนต่อนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2568 ตามชีวิตหลักการดังนี้

• เดินตามรอย รัชกาลที่ 9
• ปลูกค่านิยมไม่โกง
• ชำระล้างพระพุทธศาสนา
• ศรัทธาทำตามพระพุทธธรรม
• น้อมนำศีล 5 สู่สังคม

 

 
ในนามพุทธสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และเครือสมาคมพระพุทธศาสนาทั่วราชอาณาจักร จึงขอคัดค้านการนำเสนอร่างพระราชบัญญัติอีเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ พ.ศ. .... (ธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ "กาสิโน") ฉบับนี้
 

สถาบันวะสะฏียะฮ์เพื่อสันติภาพและการพัฒนา สำนักจุฬาราชมนตรี
 

แถลงว่า สถาบันวะสะฏียะฮ์เพื่อสันติภาพและการพัฒนา สำนักจุฬาราชมนตรี ซึ่งเป็นสถาบันทางศาสนาที่ทำงานด้านการส่งเสริมกิจกรรม คุณธรรมและจริยธรรมอันดีงามในสังคม มีความเป็นห่วงอย่างยิ่งต่อผลกระทบที่อาจเกิดจาก พ.ร.บ. ดังกล่าว

 

ได้ประกาศนโยบายด้านเนื้อหาหลักของร่าง พ.ร.บ. นี้ให้มีการถกเถียงในเชิงอารมณ์และทำให้เกิดสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรมตามกฎหมายซึ่งขัดกับ คุณค่า ประเพณี ศิลปวัฒนธรรม และวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ล้ำค่าของสังคมไทย และประสบการณ์ของสังคมต่างๆซึ่งสั่งสมกันมาตั้งแต่อดีตว่า ผลของการพนันนั้นนำไปสู่ภัยอันตรายและทำให้เกิดความฉาบฉวยต่อสังคมในทุกมิติ

 

สำหรับชาวไทยมุสลิมผู้นับถือศาสนาอิสลามนั้น การพนันถือเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักคำสอนของศาสนาอย่างชัดเจน เป็นบาปใหญ่ ด้วยการเล่นการพนันส่งผลร้ายทั้งต่อตัวบุคคล ครอบครัวและสาธารณะ

 

การพนันทำให้ทรัพย์สินเงินทองต้องเสียหายไปอย่างรวดเร็ว สูญเปล่า ที่สุดเกิดความทุกข์ให้แก่คู่สมรสต้องการกระทำทุจริตการเพื่อทรัพย์สินกลับมาเป็นที่ต่อไปการโกงและการคอร์รัปชั่นในทุกรูปแบบ

 

กระทั่งสามารถก่ออาชญากรรมทั้งในทางเศรษฐกิจ ทั้งการฟอกเงิน การค้ามนุษย์ การเงินนอกระบบ และอาชญากรรมการประทุษร้ายต่อชีวิตตลอดด้วย

 

ซึ่งเหตุผลพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะห์อัลมาอิดะห์ อายะห์ที่ 90 ความว่า

 

"ผู้ศรัทธาทั้งหลาย แท้จริงสุรา การพนัน และแท่นหินสำหรับเชือดสัตว์บูชา และการเสี่ยงติ้วนั้นเป็นสิ่งโสมมอันเกิดจากการกระทำของชัยฏอน ดังนั้นพวกเจ้าจงห่างไกลจากมันเสีย เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้รับความสำเร็จ" 
 

 

สถาบันวะสะฏียะฮ์เพื่อสันติภาพและการพัฒนา สำนักจุฬาราชมนตรี ขอเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนและยุติความพยายามในการผลักดัน พ.ร.บ. ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ....

 

แม้รัฐบาลได้ชี้ให้เห็นถึงผลดีในแง่เศรษฐกิจ แต่ความเสียหายทั้งในเชิงคุณค่าและคุณธรรมอันดีงามที่ตามมาต่อสังคมไทยอันเกิดจาก พ.ร.บ. ดังกล่าวนั้นมีมูลค่ามหาศาลกว่างบประมาณโดยรัฐบาลควรต้องพัฒนาเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม การยกระดับคุณภาพการศึกษา และมุ่งหาแนวทางสร้างรายได้ที่ยั่งยืนโดยไม่ต้องพึ่งพาอุตสาหกรรมการพนัน