‘คลินิกมลพิษออนไลน์’ มีไว้ ได้ใช้สู้ฝุ่นPM2.5
กระทรวงสาธารณสุขแถลงแนวทางการดูแลสุขภาพจากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 แนะประชาชนเข้าถึง ‘คลินิกมลพิษออนไลน์’ เพื่อตรวจสอบค่าฝุ่น ประเมินอาการ และพบแพทย์ออนไลน์
นายแพทย์สกานต์ บุนนาค รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวในการแถลงข้อมูลของศูนย์ข้อมูลข่าวสาร ฝุ่นPM2.5 เมื่อวานนี้ (22 มกราคม 2568) ว่า ทางกระทรวงสาธารณสุขได้จัดตั้งคลินิกออนไลน์ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ประชาชน เนื่องจากไม่อยากให้ประชาชนเดินทางมาที่คลินิก เพื่อไม่ให้เจอมลพิษ ตั้งแต่ปี 2562 โดยได้ขยายแพลตฟอร์มและเชื่อมโยงกับหน่วยงานต่างๆ
บริการที่มีใน คลินิกออนไลน์ ได้แก่
- การรับความรู้เรื่องการส่งเสริม ป้องกัน
- แบบประเมินอาการในออนไลน์ ว่ามีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน
- ตรวจสอบค่าฝุ่น/คุณภาพอากาศ โดยสามารถตรวจสอบพื้นที่ปัจจุบัน และพื้นที่ที่ตั้งค่าไว้ได้
- พบแพทย์ ผ่านคลินิกมลพิษออนไลน์
- มีระบบส่งต่อหากพบว่าอาการที่เป็นควรจะพบแพทย์ในโรงพยาบาลโดยด่วน
โดยในปี 2568 นี้ มีผู้ป่วยเข้ารับบริการผ่านคลินิกมลพิษออนไลน์ 298 ราย เป็นอาการระบบทางเดินหายใจมากที่สุด 75% รองลงมา คือ โรคตา 42% และโรคผิวหนัง 21%
สำหรับประชาชนที่สนใจ สามารถดาวน์โหลดผ่านช่องทาง LINE : @pm2.5, แอปพลิเคชัน หมอพร้อม : มี TAB ประเมินอาการผ่านคลินิกมลพิษออนไลน์ , นอกจากนี้ยังสามารถเข้าผ่าน Website : www.pollutionclinic.com
เตรียมยกระดับประกาศ 'เขตควบคุมโรคจากฝุ่นPM2.5'
ด้าน ดร.นพ.วรตน์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข ด้านแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 กล่าวว่า สถานการณ์ภาพรวมวันที่ 22 มกราคม 2568 ข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษ พบจังหวัดที่มีค่าฝุ่นเกินมาตรฐานรวม 60 จังหวัด แยกเป็น ระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (37.6 - 75 มคก./ลบ.ม) จำนวน 51 จังหวัด และระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพ (75.1 มคก./ลบ.ม. ขึ้นไป) จำนวน 9 จังหวัด ได้แก่ สระบุรี เพชรบุรี กรุงเทพฯ ระยอง สุโขทัย พระนครศรีอยุธยา นครพนม สมุทรสาคร และราชบุรี
ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ล่วงหน้า 7 วัน ระหว่างวันที่ 23 - 29 มกราคม 2568 พื้นที่ กทม.และปริมณฑล ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ยังคงมีค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน ในระดับสีส้ม ดังนั้น ขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 อย่างต่อเนื่อง และปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
สำหรับพื้นที่ที่มีค่าเฉลี่ยฝุ่น PM2.5 ในรอบ 24 ชม. มากกว่า 75 มคก./ลบ.ม. ติดต่อกัน 3 วัน จะถือเป็นพื้นที่สีแดง ซึ่งกรมควบคุมโรคจะร่วมกับหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่คัดกรองสุขภาพเชิงรุกในกลุ่มเสี่ยงและให้ความรู้สุขภาพกับประชาชน ด้านกรมควบคุมโรคได้ออกคัดกรองสุขภาพ ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2567 – 14 มกราคม 2568 รวม 517 ราย ใน 9 จังหวัด พบผู้ที่มีอาการใน 4 กลุ่มโรค (ระบบทางเดินหายใจ, ระบบหัวใจและหลอดเลือด, ตา, ผิวหนัง) 77 ราย ส่วนใหญ่เป็นระบบทางเดินหายใจ รองลงมาคือ ตา
ทั้งนี้ คณะกรรมการควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม ได้เตรียมออกแนวทางในการประกาศพื้นที่ควบคุมโรคจากฝุ่น PM 2.5 เพื่อให้ผู้บริหารในพื้นที่สามารถดำเนินมาตรการต่างๆ ได้อย่างเข้มข้น อาทิ การออกประกาศ Work from home การสนับสนุนหน้ากากป้องกันฝุ่น เป็นต้น
ปฏิบัติตนอย่างไรในวันที่ฝุ่นPM2.5 แตะระดับสีส้ม!
นพ.ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมอนามัย มีคำแนะนำประชาชนในการปฏิบัติตนตามค่าฝุ่น PM 2.5 โดย
ระดับสีเหลือง (25.1-37.5 มคก./ลบ.ม.) ให้เลี่ยงออกกำลังกายกลางแจ้ง/การทำงานที่ใช้แรงมาก ระดับสีส้ม (37.6-75 มคก./ลบ.ม.) ให้เพิ่มการสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นทุกครั้งเมื่ออยู่กลางแจ้ง สำหรับผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ให้สวมหน้ากากป้องกันฝุ่นตั้งแต่ระดับสีเหลือง ลดระยะเวลาออกกำลังกายกลางแจ้งและการทำงานที่ใช้แรงมาก
ระดับสีส้ม ต้องจำกัดระยะเวลา ออกกำลังกายกลางแจ้งและการทำงานที่ใช้แรงมาก ควรอยู่ในห้องปลอดฝุ่น
ระดับสีแดง ทุกคนควรงดออกกำลังกายและทำงานที่ใช้แรงมาก สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น และอยู่ในห้องปลอดฝุ่น
ทั้งนี้ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ กรณีผู้มีโรคประจำตัว ควรเตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นติดตัวเสมอ
สำหรับการป้องกันตนเองจากฝุ่นให้ปฏิบัติตามแนวทาง "เช็ก-ใช้-เลี่ยง-ลด-ปิด" คือ เช็กค่าฝุ่นจากแอปพลิเคชัน Air4Thai หรือ Life Dee ก่อนออก จากบ้าน, ใช้หน้ากากป้องกันฝุ่นทุกครั้ง เช่น หน้ากาก N95, เลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งและเฝ้าระวังสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง, ลดกิจกรรมก่อฝุ่น เช่น การจุดธูป การปิ้งย่าง การเผา การสูบบุหรี่ รวมถึงตรวจเช็กสภาพรถเป็นประจำ และปิดประตู หน้าต่าง ให้มิดชิด หมั่นทำความสะอาดที่พัก หรือทำห้องปลอดฝุ่น หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามสายด่วนกรมอนามัย 1478 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง