3 สมุนไพรไทยควรมีติดบ้าน! ดูแลตัวเองเมื่อเจอฝุ่นPM2.5
กรมการแพทย์แผนไทยฯ แนะ 3 สมุนไพรสำคัญควรมีติดบ้าน เพื่อป้องกันและบรรเทาอาการที่เกิดจากการรับฝุ่นPM2.5 ไม่ว่าจะเป็นการอักเสบของร่างกาย ผิวหนัง และล้างพิษ!
นายแพทย์สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ทางกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สนับสนุนการใช้สมุนไพรตามภูมิปัญญาไทยในการดูแลตัวเองในสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคประจำตัว เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ โรคปอด โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง และโรคผิวหนัง ที่ต้องระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากฝุ่น PM 2.5 มีอนุภาคขนาดเล็กมาก สามารถหลุดผ่านขนจมูกเข้าสู่ร่างกาย ก่อให้เกิดการระคายเคืองในระบบทางเดินหายใจ การอักเสบในอวัยวะต่างๆ รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการกำเริบของโรคเรื้อรังดังกล่าวได้
ดังนั้น การนำสมุนไพร เช่น มะขามป้อม บรรเทาอาการไอ บรรเทาอาการระคายคอ ขมิ้นชัน และชาชงรางจืด ต้านการอักเสบของร่างกาย สำหรับปัญหาผิวหนังที่เกิดจากฝุ่น PM 2.5 เช่น ผด ผื่น และอาการคัน ควรใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและลดการอักเสบ เช่น ว่านหางจระเข้ บัวบก โลชั่นพญายอ ส่วนอาการผิวหนังอักเสบหรือผื่นลมพิษควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของพลู หรือ ขี้ผึ้งพญายอ ใช้ทาบรรเทาอาการ ผื่น แพ้ คัน และการอักเสบของผิวหนัง ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีจำหน่ายทั่วไปตามร้านขายยา หรือ ร้านค้าสะดวกซื้อทั่วไป
สรรพคุณ 3 สมุนไพร ป้องกันและบรรเทา
ดร.ภญ.ดวงแก้ว ปัญญาภู รองผู้อำนวยการกองวิชาการและแผนงาน กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้กล่าวถึงสรรพคุณ และวิธีการใช้สมุนไพรทั้ง 3 ชนิด ว่า
รางจืด โดดเด่นเรื่องการแก้พิษ ล้างพิษ ต้านการอักเสบของร่างกาย สามารถนำมาใช้ได้ 2 -3 กรัม วันละ 3 ครั้ง หลังอาหาร
- ข้อควรระวัง ผู้ป่วยที่รับประทานยาอื่นประจำ ผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นไข้เลือดออก ผู้ป่วย ตับ ไต ต้องใช้อย่างระมัดระวัง และ ไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน
มะขามป้อม มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ลดการอักเสบ การระคายเคือง บรรเทาอาการไอ
- รับประทานได้ทั้งแบบผลสด ผลแห้ง และชาชง
ขมิ้นชัน มีสารเคอร์คิวมิน สามารถป้องกันการทำลายเซลล์ ระบบทางเดินหายใจ ต้านการอักเสบของร่างกาย
- รับประทานขมิ้นชันในช่วงที่มีมลพิษ ทางอากาศ ได้ครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 3 – 4 ครั้ง แต่ต้องไม่เกิน9 กรัม / วัน และไม่ควรใช้ในผู้ป่วยที่มีท่อน้ำดีอุดตัน และนิ่วในถุงน้ำดี
นอกจากนี้ยังควร รับประทานอาหารให้ ครบห้าหมู่ เน้นผักและสมุนไพรที่มีประโยชน์มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ผักผลไม้สีส้ม แดง ม่วงน้ำเงิน เช่น กะหล่ำปลีม่วง ส้ม หรือรับประทานบล็อกเคอรี่ และผักใบเขียว เป็นต้น