ความหมายเบื้องหลัง 'Pink Triangle' ทรัมป์โพสต์ ย้อนถึงยุค 'นาซี'
เปิดเบื้องหลังความหมายของ 'Pink Triangle' หลัง 'ทรัมป์' รีโพสต์ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้แก่ชาว LGBTQ+ เนื่องจากเป็นสัญลักษณ์ที่มีประวัติย้อนไปในยุค 'นาซี'
เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รีโพสต์บทความหนึ่งของ หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ โดย เจเรมี ฮันท์ ในสื่อโซเชียลมีเดีย X ของเขา บทความดังกล่าวชัดเจนด้วยสัญลักษณ์สามเหลี่ยมกลับหัวสีชมพูหรือ 'Pink Triangle' และเนื้อหาด้านในก็ยกย่องรัฐบาลทรัมป์และรัฐมนตรีกลาโหมสำหรับนโยบาย 'ห้ามบุคคลข้ามเพศรับราชการทหาร'
ความเจ็บปวดที่ซ่อนเร้นอยู่ในสัญลักษณ์ สามเหลี่ยมสีชมพู
สัญลักษณ์สามเหลี่ยมสีชมพู หรือ Pink Triangle มีต้นกำเนิดในช่วงทศวรรษที่ 1930 และ 1940 เป็นยุคของนาซีในเยอรมัน โดยเป็นหนึ่งในตราสัญลักษณ์ของค่ายกักกันใช้ระบุถึง 'ชายรักร่วมเพศและหญิงข้ามเพศ' ที่ถูกคุมขังโดยทางการ
ในค่ายกักกันนาซี นักโทษทุกคนต้องสวมตราสัญลักษณ์สามเหลี่ยมด้านเท่าที่คว่ำเอาปลายแหลมลงบนหน้าอก โดยมีการระบุสีที่แตกต่างกันเพื่อแยกประเภทและเหตุผลที่พวกเขาถูกคุมขัง ในช่วงเริ่มแรก 'ชายรักร่วมเพศ' ถูกระบุด้วยสัญลักษณ์และสีที่หลากหลาย เช่น
- สามเหลี่ยมสีเขียว (อาชญากร)
- สามเหลี่ยมสีแดง (นักโทษการเมือง)
- หมายเลข 175 (อ้างถึง มาตรา 175 ของกฎหมายอาญาเยอรมันที่กำหนดให้พฤติกรรมรักร่วมเพศเป็นอาชญากรรม)
- ตัวอักษร A (ย่อจาก Arschficker ซึ่งเป็นคำหยาบหมายถึง คนที่มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก)
ต่อมาจึงมีการใช้ 'สามเหลี่ยมสีชมพู' เพื่อระบุว่าเป็น 'ชายรักร่วมเพศและหญิงข้ามเพศ' ขณะที่หญิงรักหญิง, หญิงไบเซ็กชวล และชายข้ามเพศ ไม่ถูกจับกุมแต่บางคนจะถูกจัดอยู่ในกลุ่ม 'บุคคลต่อต้านสังคม' และต้องสวม สามเหลี่ยมสีดำ แทน
อนุสรณ์เครื่องหมายสามเหลี่ยมชมพู สำหรับชายรักร่วมเพศที่ถูกฆ่าที่บูเคนวัลด์
นอกจากนี้ Pink Triangle ยังถูกใช้กับบุคคลที่ถูกมองว่าเป็น "ผู้เบี่ยงเบนทางเพศ" เช่น ผู้ล่วงละเมิดทางเพศ (sex offenders), คนที่มีพฤติกรรมทางเพศกับสัตว์ (zoophiles), และผู้ล่อลวงเด็ก (pedophiles) หากนักโทษเป็นทั้งชาวยิวและรักร่วมเพศ พวกเขาจะต้องสวม สามเหลี่ยมสีชมพูซ้อนบนสามเหลี่ยมสีเหลือง นักโทษที่สวม 'Pink Triangle' มักถูกปฏิบัติอย่างโหดร้าย แม้แต่จากนักโทษคนอื่นๆ เองก็ตาม
ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ใน San Francisco's Pink Triangle Memorial ระบุว่า
ระหว่างปี 1933 - 1945 มีชายมากถึง 100,000 คน
ที่ต้องสงสัยว่าเป็นรักร่วมเพศถูกจับกุม และประมาณ 15,000 คน
ถูกส่งตัวไปยังค่ายกักกัน ซึ่งพวกเขาต้องสวม สามเหลี่ยมสีชมพู เพื่อระบุตัวตน
พวกเขาถูกทารุณกรรมอย่างรุนแรง
และมีการประมาณการว่า 60% ของผู้ที่ถูกส่งไปค่ายกักกัน เสียชีวิตภายในค่าย
ต่อมาในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อค่ายกักกันถูกยกเลิก นักโทษถูกคุมขังแยกเป็นในฝั่งของ เยอรมนีตะวันตก และ เยอรมนีตะวันออก ทางฝั่งตะวันตกนักโทษที่ถูกจองจำเพราะรักร่วมเพศบางคนถูกคุมขังต่อไปเนื่องจาก กฎหมายมาตรา 175 ยังคงมีผลบังคับใช้จนถึงปี 1969 ส่วนทางฝั่งตะวันออก กฎหมายมาตรา 175 มีการแก้ไขให้รุนแรงขึ้นและถูกใช้จนถึงปี 1968
ความรุนแรงของสัญลักษณ์ดังกล่าวในช่วงเวลาประวัติศาสตร์ ทำให้ในปี 2002 รัฐบาลเยอรมันได้ออกแถลงการณ์ขอโทษอย่างเป็นทางการ ต่อชายรักร่วมเพศที่ถูกกดขี่ในช่วงสงคราม
อย่างไรก็ตามในช่วงทศวรรษ 1970 สัญลักษณ์นี้ถูกนำกลับมาใช้อีกครั้งเพื่อเป็น 'เครื่องมือประท้วง' การเลือกปฏิบัติและความเกลียดชังต่อ LGBTQ+ และต่อมาได้กลายเป็น สัญลักษณ์ของความภาคภูมิใจในตัวตน (LGBT Pride) และขบวนการเรียกร้องสิทธิของชาว LGBTQ+ และกลุ่มเควียร์ต่อมา
อนุสรณ์สถานในซานฟรานซิสโก
ทรัมป์รีโพสต์บทความ สร้างความไม่พอใจต่อเนื่อง
จวบจนกระทั่งเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาสัญลักษณ์ 'สามเหลี่ยมสีชมพู' ปรากฎขึ้นอีกครั้งบน X ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังจากที่เขารีโพสต์บทความหนึ่งของ หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ โดย เจเรมี ฮันท์ ซึ่งมีเนื้อหาย่องรัฐบาลทรัมป์และรัฐมนตรีกลาโหมสำหรับนโยบาย 'ห้ามบุคคลข้ามเพศรับราชการทหาร'
แน่นอนว่าการกระทำดังกล่าวได้รับฟีดแบ็คไม่ดีนักจากกลุ่ม LGBTQ+ โดยเฉพาะกลุ่ม Keshet องค์กรไม่แสวงหากำไรในสหรัฐอเมริกาที่มุ่งมั่นในการสนับสนุนและส่งเสริมสิทธิของชุมชน LGBTQ+ โดยเฉพาะในกลุ่มชาวยิว อิดิท ไคลน์ ประธานและซีอีโอของ Keshet กล่าวในแถลงการณ์ทางอีเมลถึง USA TODAY ตอนหนึ่งว่า
"การกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่น่าหวาดกลัวอย่างยิ่งสำหรับ LGBTQ+ และชาวยิว เนื่องจากเป็นสิ่งที่ทำให้นึกถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของการถูกกดขี่ข่มเหงของพวกเรา รวมถึงวิธีการต่างๆ ที่ถูกใช้ในปัจจุบัน เช่น การกล่าวหาให้เป็นแพะรับบาป การแบนหนังสือ การทำลายการเข้าถึงข้อมูล และการควบคุมหรือยึดเอกสารระบุตัวตน เช่น หนังสือเดินทาง"
ทั้งนี้ รัฐบาลทรัมป์ ได้สั่งการให้หน่วยงานรัฐบาลกลางยกเลิกโครงการเกี่ยวกับความหลากหลาย, ความเท่าเทียม และการรวมกลุ่ม (Diversity, Equity, and Inclusion หรือ DEI) และการกล่าวถึงเรื่องเพศและชุมชนทรานส์เจนเดอร์ถูกลบออกจากเว็บไซต์ของรัฐบาลกลาง ในช่วงสัปดาห์แรกๆ ของการเข้ารับดำรงตำแหน่ง โดยอ้างว่า นโยบายดังกล่าวจะทำให้องค์กรลดการใช้จ่ายและสามารถเลือกใช้คนที่มีประสิทธิภาพที่สุด โดยไม่ต้องคำนึงถึงเรื่องความหลากหลายอีกต่อไป.
ข้อมูล
wikipedia
Newsweek
USA TODAY
Pink Triangle Memorial : the project of the Eureka Valley Foundation