สหรัฐตั้งข้อหา12รัสเซียแทรกแซงเลือกตั้ง
สหรัฐตั้งข้อหา 12 รัสเซียแทรกแซงเลือกตั้งครั้งแรก คาดกดดันหนักก่อนประชุมซัมมิททรัมป์-ปูติน
สหรัฐตั้งข้อหา 12 รัสเซียแทรกแซงเลือกตั้งครั้งแรก คาดกดดันหนักก่อนประชุมซัมมิททรัมป์-ปูติน
โรเบิร์ต มุลเลอร์ อัยการพิเศษสหรัฐ ในคดีสอบรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐปี 2016 ได้ตั้งข้อหากับเจ้าหน้าที่ข่าวกรองทหารรัสเซีย (จีอาร์ยู) 12 คน อย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ในความผิดเกี่ยวกับการปลอมแปลงตัวตนไปจนถึงการสมคบกันฟอกเงิน จากการแฮ็กเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของพรรคเดโมแครตเพื่อฉุดไม่ให้ฮิลลารี คลินตัน ชนะการเลือกตั้ง คาดว่าจะสร้างแรงกดดันอย่างหนักต่อการประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำสหรัฐและรัสเซีย ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้
สำหรับรายละเอียดการตั้งข้อหาคดีอาญาต่อเจ้าหน้าที่รัฐบาลรัสเซีย ระบุไว้ว่า เจ้าหน้าที่รัสเซียตั้งเป้าแฮ็กข้อมูลบุคคลกว่า 300 คน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทีมหาเสียงของคลินตันและพรรคเดโมแครต โดยสืบค้นผ่านทุกช่องทาง อาทิ ทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก และเวิร์ดเพรส รวมถึงส่งอีเมลปลอมที่แอบอ้างเป็นทีมงานกูเกิลเพื่อแพร่มัลแวร์ตามเซิร์ฟเวอร์และขโมยพาสเวิร์ดกับข้อมูลต่างๆ จากนั้นได้ใช้ชื่อปลอมกระจายข่าวลวงไปตามช่องทางต่างๆ เพื่อบั่นทอนคลินตัน และยังขโมยข้อมูลส่วนบุคคลของชาวอเมริกันไปถึงราว 5 แสนคน นอกจากนี้ยังพบด้วยว่ามีการใช้เงินดิจิทัลอย่างบิตคอยน์ เพื่อหลีกเลี่ยงการสืบค้นตามร่องรอยที่มาด้วย
ด้านกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ออกแถลงการณ์ตอบโต้ความเคลื่อนไหวดังกล่าวว่า มีเป้าหมายเพื่อทำลายบรรยากาศก่อนการประชุมซัมมิท และย้ำว่าสหรัฐไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่าบุคคลทั้ง 12 ที่ถูกตั้งข้อหานั้น มีส่วนเชื่อมโยงกับหน่วยข่าวกรองทหารรัสเซีย
ทั้งนี้ เรนาโต มาริอ็อตติ อดีตอัยการสหรัฐ กล่าวว่า คำถามต่อไปหลังจากนี้ ก็คือมีชาวอเมริกันเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยหรือไม่ และจะถูกตั้งข้อหาด้วยหรือไม่
ขณะที่ รูดอล์ฟ จูเลียนี ทนายความของทรัมป์ ระบุว่า การตั้งข้อหาครั้งนี้ไม่มีชาวอเมริกันเข้าไปเกี่ยวข้อง ดังนั้นจึงถึงเวลาที่มุลเลอร์ควรยุติการสืบสวนสอบสวนไปยังประธานาธิบดี และประกาศว่าประธานาธิบดี ทรัมป์ เป็นผู้บริสุทธิ์อย่างแท้จริง
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้นักการเมืองพรรคเดโมแครตหลายคน เรียกร้องให้ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ระงับแผนที่จะประชุมสุดยอดร่วมกับประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ซึ่งจะมีขึ้นที่กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ ในวันจันทร์ที่ 16 ก.ค.ออกไปก่อน
อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวได้แถลงยืนยันว่าการประชุมสุดยอดของ 2 ผู้นำสหรัฐและรัสเซียจะยังมีขึ้นต่อไปตามกำหนดการเดิม โดยการประชุมครั้งนี้จะยิ่งถูกจับตาจากทั่วโลกว่า ทรัมป์จะส่งสัญญาณอะไรกับปูตินในการหารือนาน 5 ชั่วโมง
ภาพ เอเอฟพี