posttoday

80หุ้นสุดถูกต่างชาติทิ้งหนัก

17 มิถุนายน 2556

บลจ.โซลาริส ชี้หุ้นไทย 70-80 ตัวราคาถูกกว่าเป้า 20-30% ส่งทริกเกอร์ฟันด์ช้อนซื้อ “กสิกร” ลุยด้วยเล็ง 7%

บลจ.โซลาริส ชี้หุ้นไทย 70-80 ตัวราคาถูกกว่าเป้า 20-30% ส่งทริกเกอร์ฟันด์ช้อนซื้อ “กสิกร” ลุยด้วยเล็ง 7%

นายสุรเชษฐ์ ศรีวัฒนกุลวงศ์ ผู้จัดการกองทุนตราสารทุนและผู้อำนวยการฝ่ายจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) โซลาริส เปิดเผยว่า ปัจจุบันหุ้นในตลาดหลักทรัพย์มีราคาถูกมาก โดยพบว่าประมาณ 70-80 ตัว ถูกกว่าราคาเป้าหมายประมาณ 20-30% จึงเป็นโอกาสในการเลือกสะสมหุ้น

“ปัจจุบันหุ้นไทยลงมาซื้อขายที่สัดส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (พี/อี) ที่ประมาณ 12.5 เท่า ต่ำกว่าระดับสูงสุดที่เคยทำไว้ 14.5 เท่า หรือ 1,650 จุด ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงเป้าดัชนีไว้ที่ 1,720 จุด ทำให้หุ้นไทยยังมีโอกาสในการทำกำไรได้” นายสุรเชษฐ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้นคาดว่าหุ้นไทยยังมีโอกาสปรับฐานอีกเล็กน้อยใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้าจากความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยกเลิกมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 18-19 มิ.ย.นี้ ทำให้สัปดาห์สุดท้ายของเดือนนี้น่าจะเห็นภาพตลาดได้ชัดเจนมากขึ้นและเป็นจังหวะซื้อ

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาต่างชาติขายหุ้นไทยออกมามากแล้ว เมื่อเทียบกับประเทศในกลุ่ม TIP อีกสองแห่ง คือ อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ จึงเป็นเป้าหมายมากกว่า เพราะมียอดซื้ออยู่มาก

“หากยกเลิกคิวอีตลาดจะแพนิก หุ้นไทยอาจลงไปแถว 1,300 จุดต้นๆ หากส่งสัญญาณยังไม่ถอน ดัชนีก็จะเด้งและคาดว่าใน 8 เดือนจะเห็น 1,600 จุดได้ เนื่องจากกำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ยังแข็งแกร่ง โดยเราตั้งเป้าดัชนีใน 12 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ 1,764 จุด” นายสุรเชษฐ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ดัชนีคงจะไม่กลับมาทำนิวไฮในเวลารวดเร็ว คาดว่าตลาดจะย่ำอยู่แถวบริเวณ 1,500-1,600 จุดใน 1-2 เดือนนี้ จนกว่ากำไร บจ.ในไตรมาส 2 ออกมาดีสนับสนุน

ด้านนายสุพรรณ เศษธะพานิช รองกรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.โซลาริส เปิดเผยว่า บริษัทออกกองทุนโซลาริส มิสไซล์ 8 อาร์ที (S-MS 8RT) ซึ่งเป็นกองทุนทาร์เก็ตฟันด์กองที่สองของบริษัทและเป็นกองทุนแรกของปีนี้ ตั้งเป้าลงทุนหุ้นไทยในหุ้นขนาดกลางประมาณ 10-15 ตัว มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท เสนอขายครั้งเดียววันที่ 18-20 มิ.ย. 2556 ลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท

กองทุนมีอายุโครงการประมาณ 8 เดือน โดยจดทะเบียนเป็นกองทุนรวมผสม เพื่อความคล่องตัวในการบริหารจัดการและตั้งเป้าผลตอบแทนที่ 8% สามารถปิดกองทุนได้ก่อนกำหนดภายใน 8 เดือน หากมูลค่าหน่วยลงทุนมากกว่าหรือเท่ากับ 10.85 บาทต่อหน่วยเป็นเวลา 3 วันทำการติดกัน

นายจงรัก รัตนเพียร ประธานกรรมการบริหาร บลจ.กสิกรไทย เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทยเสนอขายกองทุนเปิดเค ไทย เฟล็กซิเบิล อิควิตี้ ทริกเกอร์ 2 (KTFET2) ในวันที่ 17-19 มิ.ย. 2556 มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท เน้นลงทุนหุ้นในประเทศที่มีพื้นฐานดี ตั้งเป้าหมายผลตอบแทน 7% ภายในเวลา 1 ปี

นอกจากนี้ เปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนรับผลตอบแทน 2 ครั้ง คือ ครั้งแรกจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ เมื่อหน่วยลงทุนมีมูลค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 10.35 บาทต่อหน่วย หรือเมื่อหน่วยลงทุนมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 3.50% และครั้งที่ 2 จะรับซื้อคืนโดยอัตโนมัติเมื่อหน่วยลงทุนมีมูลค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 10.70 บาท

“เราคาดว่าเฟดจะยังไม่ส่งสัญญาณปรับลดเม็ดเงินคิวอีและน่าจะส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นไทยได้อีก แต่ยังต้องจับตามองค่าเงินบาทที่ยังคงผันผวน ซึ่งหากค่าเงินบาทมีเสถียรภาพดีขึ้น ก็เป็นสัญญาณที่ดีและอาจเป็นปัจจัยหนุนให้ผู้ลงทุนกลับมาสนใจหุ้นไทยเหมือนเดิม” นายจงรัก กล่าว