ส่อวุ่น! แถลงยืนยันตัวตนเงินดิจิทัล แต่ทำไมระบบชำระเงินยังไม่พร้อม!

ภายหลังการจัดแถลงข่าวความคืบหน้านโยบายดิจิทัลวอลเล็ตในวันนี้ (24 ก.ค.67) โดยมีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลังแถลง โดยสิ่งสำคัญที่มีการแถลงคือความพร้อมให้ประชาชนสามารถลงทะเบียนเบื้องต้นตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม - 15 กันยายน 2567 

อย่างไรก็ตามยังพบความไม่แน่นอนอีกหลายข้อ เรื่องหนึ่งที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้คือ 'ระบบการชำระเงิน' ที่ยังไม่พร้อม ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการให้งบประมาณ DGA ไปดำเนินการจำนวน 95 ล้านบาท 

โดยก่อนหน้านี้ นางไอรดา เหลืองวิไล รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ DGA เปิดเผยถึงความพร้อมการลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ตผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ว่าระบบการลงทะเบียนของประชาชนมีความพร้อมแล้ว 100% เพราะระบบนี้คือ ระบบที่พัฒนามา 3-4 ปีที่ผ่านมา โดยจะทำการยืนยันตัวตนออนไลน์ผ่านระบบที่เรียกว่า “KYC” ได้อยู่แล้ว  ขณะที่ระบบการชำระเงิน (Payment Platform) เป็นระบบที่หลายฝ่ายแสดงความวิตกกังวลว่าจะมีความพร้อมหรือไม่ โดยขณะนี้ระบบแพลตฟอร์มการชำระเงินที่ ครม.อนุมัติให้ DGA ไปดำเนินการในกรอบงบประมาณโครงการรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 95 ล้านบาท

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวมีระยะเวลาดำเนินการในระยะแรก 160 วัน (ไม่รวมระยะเวลาการจัดซื้อจัดจ้าง) ช่วงเดือนก.ค.- ก.ย.2567 จัดซื้อจัดจ้าง และประชุมเชิงปฏิบัติการ ส่วนช่วงเดือนก.ค.- ธ.ค.2567 ดำเนินการพัฒนาและทดสอบระบบ และช่วงเดือนต.ค.2567 - มี.ค.2568 เริ่มการใช้งาน

ล่าสุดจากการตรวจสอบกับ DGA ระบุว่าแผนงานพัฒนาระบบแพลตฟอร์มการชำระเงิน (Payment Platform) วงเงิน 95 ล้านบาท เพื่อรองรับการใช้จ่ายเงินของประชาชนจากโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท อยู่ระหว่างการประกาศจัดซื้อจัดจ้างในเว็บไซต์ของ DGA 

โดยที่ผ่านมา  DGA ดำเนินการศึกษาข้อมูลความต้องการตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่คณะกรรมการนโยบายฯ กำหนดเพื่อออกแบบสถาปัตยกรรมของระบบโดยทีมเทคนิคของ DGA เอง  รวมถึงการกำหนดแนวทางในการพัฒนาระบบ  ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบราชการ เพื่อจัดจ้างผู้เชี่ยวชาญภายนอกมาช่วยพัฒนาระบบให้แล้วเสร็จตามกำหนดเวลาที่รัฐบาลได้กำหนดไว้

การประกาศให้ยืนยันผ่าน 'แอปทางรัฐ' จึงไม่ใช่การแสดงความพร้อม อย่างที่ออกมาให้เข้าใจ เพราะความพร้อมของระบบลงทะเบียน และระบบการชำระเงินตอนนี้เป็นส่วนของ ระบบลงทะเบียนของประชาชนเท่านั้น ซึ่งในวันที่ 1 ส.ค.2567 จะมีการเปิดให้ประชาชนลงทะเบียน จากนั้นประมาณ 2 สัปดาห์ จะเปิดให้ร้านค้าที่จะเข้าร่วมโครงการลงทะเบียน

โดยไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมามีกระแสข่าวถึงธนาคารรายใหญ่ที่จะเข้ามาทำระบบชำระเงิน แต่ก็มีการออกมาปฏิเสธ จึงต้องเกาะติดว่า ระบบชำระเงิน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญจะออกมาแบบไหน หากไม่มีระบบนี้ เงินจะเข้า-ออก จ่ายให้กับร้านค้าอย่างไร ก็เป็นเรื่องน่างงวยว่า โครงการจะไปรอดอย่างไร? ไม่นับกับเรื่องงบประมาณที่นำมาใช้ที่ยังคงถกเถียงไม่จบสิ้น.