"ปลัดไพโรจน์"เผยถกขึ้นค่าแรง400บาทถูกเลื่อนไม่มีกำหนด

นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 400 บาทว่า ก.ย.นี้การประชุมคณะกรรมการไตรภาคี หรือ บอร์ดค่าจ้างนัดถัดไปในวันที่ 24 ก.ย.67 แต่ต้องยกเลิกและเลื่อนประชุมออกไปไม่มีกำหนดเนื่องจาก นายเมธี สุภาพงษ์ ไม่ได้เป็นตัวแทนนาคารแห่งประเทศไทยแล้ว จึงต้องรอให้แบงก์ชาติส่งหนังสือชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร และส่งผู้แทนคนใหม่เข้ามา เพื่อแต่งตั้งใหม่โดยผ่านมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี

"การประชุมที่ผ่านมาทางกระทรวงแรงงานไม่ทราบว่า ไม่ได้เป็นผู้แทนของธนาคารแห่งประเทศไทย แต่เมื่อตรวจสอบแล้ว ธนาคารแห่งประเทศไทยได้แจ้งว่า ไม่รับผิดชอบการกระทำของนายเมธี จึงต้องรอหนังสือยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรว่านายเมธีไม่เกี่ยวข้องกับธนาคารแห่งประเทศไทยแล้ว"

นายไพโรจน์ ซึ่งเหลืออายุราชการนับจากนี้อีกเพียง6วัน ยอมรับว่าอาจดำเนินการเรื่องดังกล่าวไม่ทันในวันที่ 1ตุลาคม2567 แต่หากนายเมธีลาออกและหาคนใหม่มาแทนได้ภายในหนึ่งสัปดาห์นี้ ก็ประกาศในราชกิจจานุเบกษาซึ่งอาจจะช้าไปประมาณ 1-2 สัปดาห์ แต่แม้ตนจะเกษียณไปแล้วก็จะเป็นหน้าที่ของประธานคณะกรรมการไตรภาคีคนใหม่ที่จะดำเนินการต่อส่วนตัวเขาเองถือว่าได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว

การพิจารณาขึ้นค่าแรงนั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อน นายจ้างและลูกจ้าง ต่างก็มีมุมมองและเหตุผล ส่วนรัฐบาล ต้องมีหน้าที่นำมิติความเห็นของแต่ละฝ่าย มาพิจารณาเพื่อให้ได้มติว่าจะขึ้นค่าแรงได้เท่าไหร่

การประชุมคณะกรรมการไตรภาคี หรือ บอร์ดค่าจ้าง เพื่อพิจารณาปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาท เกิดปัญหาไม่ครบองค์ประชุม ก่อนหน้านี้ตัวแทนราชการไม่เข้าประชุม 4 คน และลูกจ้างไม่เข้า 2 คน จึงทำให้ไม่ครบองค์ประชุม 2 ใน 3 ที่จะต้องมีผู้เข้าประชุม 10 คนขึ้นไป แต่ไม่เรียกว่าล่ม แต่ไม่ครบองค์ประชุม  มีการแจ้งว่าติดภารกิจและป่วย

ขณะที่ปลัดกระทรวงแรงงาน ยืนยันว่า ไม่ได้มีนัยทางการเมือง

อย่างไก็ตาม ในการประชุมครั้งล่าสุดได้มีการนำเสนอข้อมูลสภาพการจ้างงานของลูกจ้างโดยตรวจสอบข้อมูลจากประกันสังคม หากมีการปรับขึ้นค่าแรงในธุรกิจที่มี 200 คนขึ้นไป ในการอัตราวันละ400บาท จะมีแรงงานข้ามชาติได้รับประโยชน์จากการขึ้นค่าแรง 400 บาทประมาณ 1,000,000 คน และแรงงานไทย เกือบ 4 ล้านคน