เงินบาทแข็ง - ค่าแรงขึ้น - โมเดิร์นเทรด หนี ซ้ำ SME กระทบหนัก แข่งขันสูง

จากสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ที่ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกลงแบบเร็ว-แรงที่ 0.50% จากอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 5.25-5.50% สู่ 4.75-5.00% นั้น ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ถึงเวลาแล้วที่ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ควรพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อให้อัตราแลกเปลี่ยนของเงินบาทไม่แข็งค่าจนเกินไป ซึ่งจะช่วยเอื้อให้ผู้ประกอบการภาคการส่งออก ภาคท่องเที่ยวและบริการ สามารถแข่งขันได้

แสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์ SME ไทย เปิดเผยกับ โพสต์ทูเดย์ ว่า ขณะนี้มีผู้ประกอบการ SME ส่งออกที่กระทบโดยตรงแล้ว 23,000 บริษัท รัฐบาลควรสร้างสมดุลค่าเงินบาท ไม่ให้อ่อน หรือ แข็งเกินไป จนกระทบทั้งการนำเข้า และส่งออก โดยเฉพาะ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือ แบงก์ชาติ ควรเลิกแสดงวิสัยทัศน์ และลงมือทำ ไม่ควรนำเงินฝากของประชาชนมาเป็นตัวประกัน หยุดสร้างความร่ำรวยบนซากปรักหักพังของ SME ได้แล้ว

แบงก์ชาติ ต้องมีนโยบายเพื่อสร้างเศรษฐกิจให้ชีวิตความเป็นอยู่ของ SME ดีขึ้น 3 เรื่อง คือ เรื่องแรก การสร้างกลไกในการแก้หนี้อย่างเป็นระบบ ไม่ใช่มองการแก้หนี้เป็นแค่ EVENT เรื่องที่สอง คือ การเข้ามาช่วยออกแบบกลไกในการเข้าถึงแหล่งทุนของ SME

เรื่องสุดท้าย คือ การแก้กฎหมายต่างๆที่เป็นอุปสรรคทางการเงินของ SME ไม่ว่าจะเป็น อุปสรรคด้านนโยบาย อุปสรรคที่สร้างความไม่เป็นธรรมการเข้าถึงแหล่งทุนของ SME รวมถึงการขอใบอนุญาตเกี่ยวกับธุรกิจด้านการเงินของ SME ที่มีความล่าช้า ให้รวดเร็วขึ้น เอื้อต่อการแข่งขัน 

แสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์ SME ไทย

นอกจากนี้ โพสต์ทูเดย์ ยังได้สอบถามความเห็นผู้ประกอบการ SME ไทย ว่าได้รับกระทบหรือไม่ โดย แสงชัย จิตบุญทวีสุข ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (COO) บริษัท สหชัยโปรโมชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าของใช้ในครัวเรือนที่ผลิตจากพลาสติก อาทิ เก้าอี้พลาสติก ตระกร้าใส่เสื้อผ้า , กระติกน้ำ ภายใต้ "แบรนด์ สหชัยโปรโมชั่น" เปิดเผย กับ โพสต์ทูเดย์  ว่า ค่าเงินบาทแข็ง SME ไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการส่งออกสินค้า แต่จะกลายเป็นผลพวงให้ SME ไทยต่อสู้ในตลาดได้ยากขึ้น

เมื่อค่าเงินบาทแข็ง การสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศนำเข้ามาย่อมถูกลง ตัวกลางสำคัญในการเป็นตลาดการค้าของ SME คือ โมเดิร์นเทรด เริ่มหันไปซื้อสินค้าจากต่างชาติที่ราคาถูกกว่า มาวางขายในร้าน แทนที่สินค้า SME ของไทย เพราะมองเพียงเรื่องราคาถูกเท่านั้น

แม้ภาครัฐจะมีนโยบายสนับสนุน แต่ SME หนีความจริงตรงนี้ไม่ได้ว่า การขายส่งเข้าโมเดิร์นเทรด คือ ยอดขายที่ได้จำนวนมากและสำคัญต่อ SME แต่โมเดิร์นเทรด เหล่านี้ ไม่ได้มองไปในทิศทางเดียวกับนโยบายของรัฐในการส่งเสริมสินค้าของไทย ไม่เหมือนในหลายประเทศที่เขามักให้ความสำคัญกับสินค้าในประเทศมากกว่าสินค้าต่างชาติ

ดังนั้นภาครัฐควรเป็นตัวกลางในการเจรจากับโมเดิร์นเทรดในการสนับสนุนสินค้า SME ให้ชัดเจนมากกว่านี้

นอกจากนี้ ยังเห็นทิศทาง SME ไทย จะเริ่มหันไปซื้อสินค้าราคาถูกจากต่างชาติ เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย เข้ามาแข่งกับ SME ด้วยกันเอง โดยเน้นการแข่งขันที่ราคา ไม่ใช่การสร้างนวัตกรรมอีกต่อไป เนื่องจาก SME ที่ต้องการมีนวัตกรรมต้องเผชิญกับ การลงทุนหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็น ค่าสิทธิบัตร อุปกรณ์เครื่องจักร ค่าแรงที่กำลังจะถูกขึ้นเป็น 400 บาท แถมยังเสี่ยงต่อการถูกลอกเลียนแบบ ซึ่ง SME ส่วนใหญ่มองว่าการจดสิทธิบัตรมีต้นทุน จึงไม่ค่อยให้ความสำคัญ ทำให้ต่างชาติเลียนแบบง่ายในที่สุด

แสงชัย จิตบุญทวีสุข ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ สหชัยโปรโมชั่น

เขาให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า การขึ้นค่าแรง ก็เป็นปัญหาของผู้ประกอบการ รัฐบาลควรมีการแบ่งกลุ่ม SME ให้ชัดเจนว่าเป็นกลุ่มไหนบ้าง ภาคไหนบ้าง และ ควรให้เวลา SME ในการปรับตัว เพราะค่าแรงคือต้นทุน และหากเขาต้องการนำเครื่องจักรมาใช้แทนคน เขาก็ต้องใช้เวลาในการจัดซื้อ จัดจ้าง ไม่ควรมีนโยบายขึ้นค่าแรงแบบกระทันหัน