คลังเร่งถก "เกณฑ์บัตรสวัสดิการ" ก่อนเปิดรับลงทะเบียนรอบใหม่ไม่เกิน 31 มี.ค.68

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจรากฐานและสังคม เปิดเผยว่า ภายในเดือนพ.ย.2567 เตรียมประชุมคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจรากฐานและสังคม เพื่อเร่งกำหนดหลักเกณฑ์ รายละเอียดเงื่อนไขต่างๆ ก่อนเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่ ให้ทันก่อน 31 มี.ค.2568 

         พร้อมได้สั่งการให้กรมบัญชีกลาง รวบรวมข้อมูลตัวเลขที่เกี่ยวข้องกับสวัสดิการภาครัฐทั้งหมดว่ามีกี่ประเภท และฐานข้อมูลแต่ละประเภทอยู่ส่วนใด และมีการเชื่อมโยงฐานข้อมูลระหว่างหน่วยงานแล้วหรือยัง หลังจากที่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เร่งรวบรวมข้อมูลดังกล่าวทั้งหมดไว้ในที่เดียว เพื่อให้สะดวกต่อการนำมาใช้งาน

      ทั้งนี้ หลังจากรัฐบาลได้มีการโอนเงิน 10,000 บาท ตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 สำหรับกลุ่มเปราะบาง ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนพิการ พบปัญหา และมีข้อห่วงใยในเรื่องความถูกต้องของข้อมูล เช่น ผู้ที่ได้รับสิทธิ์บางรายจนจริงหรือไม่ หรือเป็นผู้พิการถูกต้องหรือไม่ จึงเห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องรวบรวมฐานข้อมูลเรื่องสวัสดิการของภาครัฐที่ให้กับกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวไว้ที่เดียว และเพื่อให้มีความถูกต้องมากที่สุด

       สำหรับเกณฑ์ หรือรายละเอียดของผู้มีรายได้น้อยที่จะเข้าร่วมลงทะเบียนบัตรสวัสดิการฯรอบใหม่ จะปรับเปลี่ยนหรือไม่อย่างไรนั้น ต้องรอหลังการประชุมคณะกรรมการสวัสดิการฯ ซึ่งการประชุมคณะกรรมการดังกล่าวเป็นตามพ.ร.บ.การจัดประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม พ.ศ. 2562

รัฐจะนำข้อมูลผู้ลงทะเบียนทั้งหมดไปร่อนตะแกรง หรือทบทวนใหม่ทั้งหมด และเปิดรับสมัครคนใหม่ที่มีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์ เพื่อจะได้รู้ว่าใครควรจะได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐ ส่วนรายละเอียดของเกณฑ์จะเป็นอย่างไรตรงนั้นยังไม่ได้คุย ต้องให้คณะกรรมการฯพิจารณากันก่อน โดยจะมีการนัดประชุมกันภายในพ.ย.นี้ แต่ระยะเวลาการลงทะเบียนควรต้องเสร็จก่อน 31 มี.ค.68

      โดยก่อนหน้านี้ นายจุลพันธ์ ระบุว่า เบื้องต้นเกณฑ์คุณสมบัติของผู้มีรายได้น้อยจะยังยึดกรอบเดิมเอาไว้ก่อน แต่จะมีการพิจารณาเกณฑ์ของรายได้ด้วย

       นอกจากนี้ นายจุลพันธ์มองว่า หากรัฐบาลต้องการเดินหน้าแนวคิดในการเก็บภาษีที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย (Nagative Income Tax) ก็ต้องแก้ปัญหาคอขวดเรื่องข้อมูลด้านสวัสดิการให้เรียบร้อย แก้ปัญหาข้อมูลซ้ำ ข้อมูลไม่เป็นปัจจุบัน เช่น บางรายเสียชีวิตไปแล้วแต่รัฐยังไม่รู้ก็มี บางเรื่องไม่น่ายากแต่ก็ยาก ซึ่งก็ต้องเข้าใจว่าหน่วยงานของกระทรวงการคลัง โดยเฉพาะกรมบัญชีกลางไม่ได้เป็นผู้ถือข้อมูลเรื่องสวัสดิการหน่วยงานเดียว ดังนั้นการทำความสะอาดข้อมูลดังกล่าวจึงไม่ได้จบที่กรมบัญชีกลางเพียงที่เดียว และหากไม่เร่งแก้ปัญหาเรื่องนี้การจะเดินหน้าแนวคิด NIT ก็คงทำได้ยาก