เปิดใจบอส เผยโครงสร้าง เจอร์เก้น คล็อปป์ ดูแลเครือข่าย เรด บูลล์ ล้านปอนด์

หลังโบกมืออำลาตำแหน่งนายใหญ่ทีมลิเวอร์พูล ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลังจบเดือนพฤษภาคม 2567 ที่สุดแล้ว เยอร์เก้น คล็อปป์ คัมแบ็กกลับคืนวงการฟุตบอลอีกครั้งในรอบ 5 เดือน เมื่อเขาได้เซ็นสัญญาระยะยาวเพื่อรับบทบาท หัวหน้าฝ่ายฟุตบอลเครือข่ายระดับโลกของเรดบลูล์ Global Head of Soccer at Red Bull ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2025

โดย คล็อปป์ จะรับผิดชอบเครือข่ายนานาชาติของสโมสรฟุตบอลทั้งหมดในเครือเรดบูลล์ ได้แก่ แอร์เบ ไลป์ซิก, แอร์เบ ซัลซ์บวร์ก, เรดบูลล์ส นิวยอร์ก, เรดบูลล์ส บรากันติโน่ และ เรดบูลล์ส บราซิล 

อะไรเป็นเหตุให้ "บอส" กลับคืนวงการและดูแลทีมลูกข่ายเต็มมือ ซึ่งเหล่านี้คล็อปป์จะสามารถเสกให้ทีมลูกข่ายมีมูลค่าเพิ่มเป็นหลักร้อยหลักพันบ้านปอนด์ได้ไม่ยาก โพสต์ ทูเดย์จะพาไปดูกัน

"บอส" เปิดใจครั้งแรกหลังเงียบไปนาน 5 เดือน

เป็นครั้งแรกที่ บอส คล็อปป์ เปิดใจกับการกลับสู่วงการฟุตบอล ซึ่งประโยคหนึ่งที่เขาบอกหลังประกาศอำลาสโมสรลิเวอร์พูลว่า "เขาหมดพลังจริงๆ" แต่วันนี้ คล็อปป์ ที่กลับไปชาร์ขแบตให้ตัวเองหลายเดือนกลับมากับบทบาทใหม่พูดถึงเรื่องนี้่ว่า

"บทบาทอาจเปลี่ยนไป แต่ความหลงใหลในฟุตบอลและผู้คนที่ทำให้เกมเป็นเช่นนี้ยังคงเหมือนเดิม ด้วยการร่วมงานกับเรดบูลล์ในระดับโลก ผมต้องการพัฒนา ปรับปรุง และสนับสนุนพรสวรรค์ด้านฟุตบอลที่เรามีอยู่" 

"ตอนนี้ผมกำลังตั้งตารอที่จะนำประสบการณ์ความเชี่ยวชาญและวิสัยทัศน์ด้านฟุตบอลของผมมาช่วยเรดบูลในระดับโลก ผมมองบทบาทของผมเป็นเหมือนที่ปรึกษาและผู้สนับสนุนแก่โค้ชและระดับบริหารของสโมสรเรดบูลล์"

มีหลายวิธีที่เราสามารถทำสิ่งนี้ได้โดยใช้ความรู้และประสบการณ์อันยอดเยี่ยมที่เรดบลูล์มีอยู่เพื่อเรียนรู้จากกีฬาอื่นๆ และอุตสาหกรรมอื่นๆ" 

"เราสามารถค้นพบสิ่งที่เป็นไปได้ร่วมกันได้ ผมมองว่าบทบาทของผมคือการเป็นที่ปรึกษาให้กับโค้ชและผู้บริหารของสโมสรเรดบูลล์ แต่ท้ายที่สุดแล้ว ผมก็เป็นส่วนหนึ่งขององค์กรที่มีเอกลักษณ์ สร้างสรรค์ และมองไปข้างหน้า อย่างที่ผมได้กล่าวไปแล้ว เรื่องนี้ทำให้ผมตื่นเต้นมาก"
 

บทบาทของ "บอส คล็อปป์" ใน ‘เรดบูลล์’

เจอร์เก้น คล็อปป์ จะรับงานหัวหน้าฝ่ายฟุตบอลที่เรดบูลล์อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2025 สำหรับบทบาทนี้ เขาจะรับหน้าที่ดูแลเชิงกลยุทธ์ในภาพรวม ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานประจำวันของสโมสร โดยหน้าที่รับผิดชอบหลัก คือให้การสนับสนุนผู้อำนวยการด้านกีฬาและโค้ชของสโมสรต่างๆ ในการพัฒนาปรัชญาการเล่นของเร้ดบูลล์ต่อไป

รวมถึงการร่วมวิเคราะห์นำเครือข่ายต่างๆมาช่วยในการแสวงหาผู้เล่นที่มีพรสวรรค์ควบคู่กับการฝึกอบรมพัฒนาโค้ชให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

เปิดเงื่อนไข "คล็อปป์" สามารถไปคุมทีมได้

นอกจากนี้ ยังมีอีกเงื่อนไขที่ คล็อปป์ สามารถลาออกจากบทบาทนี้ได้ นั่นคือเขาสามารถรับงานคุมทีมชาติเยอรมนีได้ หากมีการทาบทามเข้ามา  

นั่นหมายความว่า หากยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ กุนซือคนปัจจุบันหมดสัญญาในปี 2026 ไปและทัพอินทรีเหล็กทาบทามมา บอส คล็อปป์ สามารถไปได้ทันที

โอลิเวอร์ มินท์ซลาฟฟ์ ซีอีโอของ Corporate Projects and Investments ของเรดบูลล์ และเป็นผู้ดึง เจอร์เก้น คล็อปป์ มาร่วมงานนี้เผยว่าดีใจมากหลักจากดีลมาเป็นเวลาหลายเดือน

"เรารู้สึกภูมิใจมากกับการเซ็นสัญญาอันยอดเยี่ยมครั้งนี้ และแน่นอนว่าเป็นการเซ็นสัญญาที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลของเรดบูลล์"

"เจอร์เก้น คล็อปป์ เป็นหนึ่งในบุคคลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและมีอิทธิพลมากที่สุดในวงการฟุตบอลโลก ด้วยทักษะและเสน่ห์ที่ไม่ธรรมดา ในบทบาทหัวหน้าฝ่ายฟุตบอล เขาจะเป็นผู้เปลี่ยนแปลงเกมสำหรับการมีส่วนร่วมของเราในฟุตบอลนานาชาติและการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง"

นั่นหมายความว่าตั้งแต่ 1 มกราคม 2025 เราจะเห็นบทบาทใหม่ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่ทำงานในวงการฟุตบอลโดยไม่ได้คุมทีมข้างสนามเป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปี 

เปิดผลงานคุมทีมลูกค่ายสุดว้าวคว้าแชมป์รับทรัพหลักพันล้าน

สำหรับผลงานการทำทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ เขาสร้างชื่อด้วยการคุมทีมเล็กๆอย่าง ไมนซ์ 05 เลื่อชั้นจากลีกา 2 มาเขย่าเวทีบุนเดสลีกา เยอรมัน ด้วยสถิติทำทีม 270 นัด ชนะ 109 เสมอ 78แพ้ 83 

จากนั้นย้ายไปโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ปี 2008 และทำทีมยาวถึงปี 2015 คุมทีม 319 คว้าแชมป์บุนเดสลีกา 2 ปีซ้อน แชมป์เดเอฟเบ โพคาล1 สมัย, เดเอฟแอล ซูเปอร์คัพ 2 สมัย รวมถึงเป็นรองแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2013 

ตามด้วยผลงานที่สร้างชื่อให้เขาเป็นที่รักจนแฟนบอลลิเวอร์พูลขนานนามเขาว่า "บอส" อย่างเต็มปาก คือการกลับมาปลุกชีพลิเวอร์พูลให้เล่นฟุตบอลเกมรุกสไตล์ เกเก้น เพรสซิ่ง บุกแบบเฮฟวี่ เมทัล โดยคล็อปคุมทีมตั้งแต่ปี 2015 ถึงปี 2024 ผลงานที่เด่นคือคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 1 สมัยหลังจากไม่ได้แชมป์ลีกมานาน 30 ปี ตามด้วยคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 ครั้ง จากการเข้าชิงรายการนี้ 3 ครั้ง , แชมป์คาราบยาว คัพ 2 ครั้ง , แชมป์เอฟเอ คัพ 1 ครั้ง และแชมป์สโมสรโลก 1 ครั้ง

การทำทีมของคบ็อปป์คือเน้นสร้างทีมขึ้นมาและเพิ่มมูลค่าให้ทีมที่เขาทำได้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นมาในกลับร้อยหลักพันล้านปอนด์