รปภ.สารภาพฆ่าเด็กหญิง4ขวบยัดท่อน้ำ

หนุ่มรปภ.เปิดปากสารภาพลงมือฆ่าเด็กหญิง 4 ขวบซุกท่อน้ำหลังพยายามข่มขืน ตำรวจได้ภาพวงจรปิดมัดตัวคนร้ายอยู่กับเหยื่อวันเกิดเหตุ

จากกรณีคนร้ายก่อเหตุฆาตกรรมเด็กหญิงอายุ 4 ขวบ และนำศพใส่ถุงดำซุกซ่อนในท่อน้ำทิ้งหลังอพาร์ทเมนท์ย่านท่าพระ โดยเด็กหญิงได้หายตัวออกไปจากบ้านเมื่อวันที่ 3 ก.ย.ก่อนที่จะพบศพในวันที่ 6 ก.ย.

ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ก.ย. พล.ต.ต.พรชัย สุธีรคุณ ผบก.สถาบันนิติเวชวิทยา สำนักงานแพทย์ใหญ่ เปิดเผยผลการชันสูตรศพเด็กหญิงว่า สาเหตุการเสียชีวิตมาจากการจมน้ำ ส่วนจะมีการข่มขืนหรือล่วงละเมิดทางศพหรือไม่ ยังไม่สามารถตรวจสอบได้ เพราะสภาพศพเน่าเปื่อยมาก แต่เบื้องต้นเชื่อว่าจะถูกกระทำอะไรบางอย่าง ในส่วนกะโหลกที่พบว่ามีการหลุดออกมานั้น เนื่องจากผู้ตายเป็นเด็ก กระดูกยังไม่ประสานกันเต็มที่ เมื่อศพเริ่มเน่าจึงทำให้กะโหลกเริ่มหลุดออกมา

ขณะที่การสืบสวนหาตัวคนร้าย ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รองผู้บัญชาการตำรวนครบาล และทีมสืบสวนได้ตรวจสอบภาพวงจรปิดโดยรอบที่เกิดเหตุโดยละเอียด และเชิญพนักงานรักษาความปลอดภัยจำนวน 5 คน มาสอบปากคำ เพื่อหากเบาะแสคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุสะเทือนขวัญ

พล.ต.ต.ฐิติราช เปิดเผยว่า ขณะนี้ อดีตพนักงานรักษาความปลอดภัยรายหนึ่ง ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยได้ยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้ เนื่องจากตรวจสอบทะเบียนประวัติชื่อ เพราะไม่ตรงกับข้อมูลทะเบียนราษฎร์ จึงต้องสืบสวนเพิ่มเติม และประสานไปยังตำรวจภูธร จ.ภูเก็ต เพื่อหาประวัติเพิ่มเติม เนื่องจากคนร้ายเคยทำงานที่ภูเก็ต ก่อนจะมาทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ที่อพาร์ทเมนท์แห่งนี้

ทั้งนี้พนักงานสอบสวนยังต้องรอผลผ่าพิสูจน์ศพจากสถาบันนิติเวชวิทยาอย่างเป็นทางการว่ามีพบร่องรอยการข่มขืนหรือล่วงทางเพศหรือไม่ และเด็กเสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจหรือถูกทำร้าย ก่อนที่จะเสนอศาลอนุมัติหมายจับและเตรียมนำตัวผู้ต้องหาไปแถลงข่าววันที่ 8  ก.ย.

รายงานข่าวระบุว่า ผู้ต้องหารายนี้เป็นชายอายุ 27 ปี ประกอบอาชีพพนักงานรักษาความปลอดภัยอพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่งใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ แต่จากการตรวจสอบข้อมูลทะเบียนราษฎร์กลับยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นชื่อและนามสกุลจริงหรือไม่ แต่เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สน.บุคคโลได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่น เพื่อปกปิดความผิดของตน หรือ เพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนกระทำได้ ซ่อนเร้น ย้าย หรือ ทำลายศพ หรือ ส่วนของศพ เพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย

ผู้ต้องหารับสารภาพว่าก่อเหตุฆ่าเด็กหญิงจริง โดยพยายามใช้กำลังข่มขืน ซึ่งก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 18.30 น.วันที่ 3 ก.ย. ได้นั่งดื่มสุราจนเมา เมื่อเห็น เด็กหญิงที่เสียชีวิตเดินผ่านมา จึงเกิดอารมณ์ทางเพศ และได้กวักมือเรียกพาเข้าไปในห้อง ก่อนพยายามข่มขืน โดยเด็กได้ต่อสู้ขัดขืนและส่งเสียงร้องจึงใช้มือบีบคอจนแน่นิ่งไป จากนั้นนำศพใส่ในถุงขยะสีดำ ก่อนจะนำไปซ่อนในท่อเพื่ออำพราง รวมทั้งได้นำกางเกงชั้นในของตัวเอง และของเด็กหญิงไปทิ้งไว้ที่บริเวณหน้าปากซอยรัชดา-ท่าพระ 5 ก่อนจะหลบหนีไปกบดานย่านสาทร

รายงานข่าวระบุว่า หลักฐานชิ้นสำคัญของตำรวจที่ใช้มัดตัวคนร้ายคือภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกว่า คนร้ายรายนี้อยู่กับเด็กเป็นคนสุดท้ายในวันที่ 3 ก.ย.