posttoday

แพทย์ ยันยังไม่พบ"เดลตาครอน"ในไทย จับตา ลูกผสม "โอมิครอน" BA.1+BA.2 แพร่เร็วกว่า

19 มีนาคม 2565

หัวหน้าศูนย์จีโนมทางการแพทย์ เผย ยังไม่พบการระบาดของ "เดลตาครอน" ในไทย จับตาลูกผสม “โอมิครอน” BA.1+BA.2 แพร่เชื้อเร็วกว่าอาจเสี่ยงเป็นระลอก6

ศ.เกียรติคุณ ดร.วสันต์ จันทราทิตย์ หัวหน้าศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงการพบสายพันธุ์ลูกผสม (Recombi nation) ว่า ลูกผสมเดลตากับโอมิครอนเป็นเดลตาครอน ขณะนี้ส่วนใหญ่พบในฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ อังกฤษมีบ้าง เท่าที่ดูข้อมูลยังไม่พบการแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว คนที่ติดไม่มีอาการรุนแรง ไม่ต่างจากโอมิครอนทั่วไป ข้อมูลในฐานข้อมูลกลางโควิดโลกหรือ GISAID พบสายพันธุ์เดลตาครอนมากบ้างน้อยบ้างในแต่ละพื้นที่ จำนวนไม่ได้เพิ่มอย่างมีนัยยะสำคัญ แสดงว่าเดลตาครอนเปรียบเหมือนเด็กที่เกิดมาเป็นเด็กไม่แข็งแรงสมบูรณ์หรือพิการ เพราะฉะนั้นก็จะแพร่ระบาดสืบทอดลูกหลานได้ไม่ดี ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกหรือ WHO ก็ไม่ได้จัดให้อยู่ในกลุ่มสายพันธุ์ที่น่ากังวล (Variants of concern-VOC) สำหรับประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นโอมิครอนครองพื้นที่ อาจจะเกิดเดลตาครอนได้ยาก หากจะเกิดขึ้นน่าจะเป็นการนำเข้าจากประเทศอื่นมากกว่า

ส่วนลูกผสมโอมิครอนระหว่าง BA.1+BA.2 น่าจับตามากกว่า ข้อมูลเบื้องต้นที่มีการคำนวณผ่านระบบคอมพิวเตอร์คร่าวๆ จากรหัสพันธุกรรมที่ถอดได้กับระยะเวลาที่พบเชื้อ พบอัตราการติดเชื้อที่แพร่ได้มากขึ้นจาก BA.2 ในสัดส่วน 126% แต่การคาดการณ์ดังกล่าวจะเป็นจริงหรือไม่ในธรรมชาติหรือหน้างานต้องใช้เวลาศึกษาอีกสักพัก อย่างไรก็ตาม นอกจากพบในอิสราเอลตามที่ปรากฏข่าว ใน GISAID มีรายงานการพบที่อังกฤษและไอร์แลนด์ 267 ราย เท่าที่ดูข้อมูลรหัสพันธุกรรมยังไม่มีการนำส่วนสำคัญที่สร้างโปรตีนหนามมาแลกเปลี่ยนกันเป็นลูกผสม ความรุนแรงก็อาจจะยังไม่ต่างจากสายพันธุ์ย่อยโอมิครอน อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตามองว่าท้ายที่สุดจะกลายเป็นคลื่นลูกใหม่ที่ส่งผลให้เกิดการระบาดระลอกที่ 6 หรือไม่ โดยพิจารณาหากผสมกันแล้วมีอัตราการติดเชื้อได้ง่ายขึ้นเหนือกว่าตัวอื่นอย่างมากจนชนะ ขณะเดียวกัน ก็ยังไม่สามารถระบุเป็นฆาตกรหรือคนดี จนกว่าจะเห็นพฤติกรรมความรุนแรง

ทั้งนี้ WHO ได้ออกมาเตือนถึงการมองโอมิครอนจะเป็นสายพันธุ์สุดท้าย ทำให้คนการ์ดตก หรือมองว่ากำลังจะเป็นโรคประจำถิ่น ซึ่ง WHO มองว่า น่าจะมีสายพันธุ์ที่กลายพันธุ์ได้มากกว่าโอมิครอนที่อาจจะเป็นการระบาดระลอกที่ 6 ซึ่งโอมิครอนกลายพันธุ์ไปจากอู่ฮั่นประมาณ 100 ตำแหน่ง ตัวที่ 6 จะต้องกลายพันธุ์มากกว่าโอมิครอนหลายตำแหน่ง แต่จะร้ายกาจรุนแรงหรือไม่ยังไม่รู้ ลูกผสม BA.1+BA.2 เป็นแคนดิเดตหนึ่งที่ต้องจับตา สำหรับประเทศไทยที่ศูนย์จีโนมฯ ยังไม่พบลูกผสม BA.1+BA.2 แต่หากพบก็ไม่น่าประหลาด เพราะไวรัสสามารแพร่มาได้ทุกทางหากการ์ดตก จึงต้องพยายามฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมทั่วโลก