posttoday

โวย แสวง คนบุรีรัมย์ ผู้สมัครหวั่นร้องสอบเลือกสว. อาจไม่ได้รับความเป็นธรรม

28 มิถุนายน 2567

ผู้สมัครสว. ร้อง กกต. ตรวจสอบเลือกสว.67 ชี้ พบสิ่งผิดปกติ บางกลุ่มลงคะแนน แต่งตัวเหมือนกัน พวกสวมเสื้อลายโปรไฟล์สั้น มักได้รับการโหวต ย้ำ หากโยงถึงพรรคการเมืองเอี่ยวฮั้ว ต้องยุบพรรค หวั่น ไม่ได้รับความเป็นธรรม แฉ แสวง คนบุรีรัมย์ บางพรรคหนุนพี่ชาย ได้เป็นผู้ว่าฯ

ที่สำนักงานคณะกรรมการ​การ​เลือกตั้ง​ (กกต.)​ กลุ่มผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา(สว.) นำโดยนายสุรชัย พรจินดาโชติ ผู้สมัครสว.กลุ่ม 19 พร้อมด้วยผู้สมัครบางส่วน ยื่นคำร้องต่อกกต. เพื่อตรวจสอบกระบวนการเลือกสว.ระดับประเทศ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 

นายสุรชัยกล่าวว่า อยู่ในบัญชีสำรองของการเลือกครั้งนี้ อยากให้กกต.ตรวจสอบ 3 ความผิดปกติ ประเด็นแรก ผู้สมัครบางกลุ่มลงคะแนนเหมือนกัน ซีรีย์เดียวกัน ภายในกลุ่มพบว่ามีประมาณ 20 กว่าคน คิดว่ามีแค่2คนก็ประหลาดแล้ว ตัวเลขที่ลงอย่างเช่น 3, 22 ,122, 5 ขอเรียกว่าเป็นตัวเลขมหัศจรรย์

ประเด็นที่2 พบว่า ผู้สมัครสว.บางส่วน มีการแต่งกายคล้ายกัน เช่น ใส่เสื้อสีเหลืองเป็นกลุ่ม คลุมด้วยแจ็คเก็ตสีดำ พฤติกรรมบางอย่างมีข้อผิดสังเกต ไม่เหมือนพวกตนที่เป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังพบคนที่เป็นหัวหน้าทีม ไม่แต่งกายในชุดเดียวกัน ลักษณะคล้ายไกด์ทัวร์ ขอแนะนำให้กกต.ไปเปิดวีดีโอวงจรปิดดู
 

ประเด็นที่ 3 อยากให้ตรวจสอบข้อมูลคุณสมบัติ ที่กรอกไว้ในเอกสารสว.3 ว่า จริงหรือเท็จ โดยเฉพาะข้อมูลประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน ที่เกี่ยวข้องในกลุ่มตัวเอง จากที่เห็น กกต.น่าจะตรวจสอบไม่ละเอียด

"การการเขียนข้อมูลลงในเอกสาร สว. 3 เหมือนเป็นการโฆษณาตัวเอง เพื่อให้คนเข้ามาเลือก ซึ่งจะมีผลในการลงคะแนน ถ้าเขาเขียนอะไรที่โฆษณาเกินจริง หรือไม่ใช่ข้อเท็จจริง แล้วทำให้คนอื่นตัดสินใจเลือก จะมีผลต่อผู้สมัครรายอื่น โดยการกรอกข้อมูลอันเป็นเท็จมีผลทางกฎหมาย จึงอยากให้กกต.ตรวจสอบ" นายสุรชัย กล่าว

โวย แสวง คนบุรีรัมย์ ผู้สมัครหวั่นร้องสอบเลือกสว. อาจไม่ได้รับความเป็นธรรม

นายสหรัฐ มาลาศรี ผู้สมัคร​สว.กล่าวว่า การที่กกต. บอกว่ามีสายสืบ ท่านได้ไปทำงานหรือไม่ นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ขอให้ท่านทำงาน สมกับที่เป็นกกต. คุ้มภาษีประชาชน บอกว่ารู้ แต่ไม่สามารถจับคนทุจริตได้ ถือว่าไม่ทำงาน การมายื่นครั้งนี้ ไม่ถึงขนาดที่อยากให้การเลือกเป็นโมฆะ อยากให้ตรวจสอบคนที่บล็อกโหวต หรือจัดตั้ง ต้องไปจัดการ ไม่ใช่มาบอกว่า ไม่มีหลักฐาน ทำอะไรไม่ได้ อย่างนั้นแสดงว่าคุณไม่ทำงาน
 

เมื่อถามว่าจะเอาผิดกับพรรคการเมืองด้วยหรือไม่ นายสหรัฐ กล่าวว่า ถ้าสอบสวนถึงก็ต้องเอาผิดแน่นอน จะยุบก็ต้องยุบ ไม่ว่าจะเป็นพรรคสีน้ำเงินสีส้ม หรือ สีแดง ก็ต้องจัดการ

ในเวลาต่อมา กลุ่มผู้สมัครสว.กลุ่ม 2,3,14 ยื่นคำร้องต่อกกต.เพื่อขอให้ตรวจสอบกระบวนการเลือกสว.ระดับประเทศ

นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีตผู้สมัคร สว. กลุ่มสตรี กล่าวว่า อยากให้กกต.ตรวจสอบ การบล็อกโหวต ทุกคะแนนทุกหีบเหมือนกันหมด แสดงให้เห็นว่ามีโพยเป็นการทำลายประชาธิปไตย นอกจากนี้คุณสมบัติผู้สมัครสว. ก็ยังไม่ตรงกับกลุ่มอาชีพ

นอกจากนี้ โรงแรม ที่จองให้กับคนที่มาจากต่างจังหวัด ตามกลุ่มต่างๆที่เขาได้จัดสรร เพื่อมาฮั้วกัน มีการเข้าพักจัดเลี้ยง จ่ายเงินกันตรงนั้น อยากฝากว่าทั้ง 10 โรงแรมนั้น ให้กกต.ไปสืบสวน ซึ่งดิฉันเชื่อว่ามีความพยายามทำลายพยานหลักฐาน​"นางกุสุมาลวตีกล่าว

นางกุสุมาลวตี กล่าวว่า สิ่งที่ตนเป็นห่วงคือเราจะได้รับความเป็นธรรมหรือไม่ เพราะขณะที่ นายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต. เป็นคนบุรีรัมย์ เป็นอดีตคณะทำงานนายชัย ชิดชอบ พี่ชายเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ​ โดยการสนับสนุนของคนบางคน และคนบางพรรค เพราะฉะนั้นการกระทำเยี่ยงนี้ เป็นการกระทำที่อุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายทั้งสิ้น ยืนยันว่ามีการซื้อโหวตกันจริงๆ ช่วงบ่ายวันเดียวกัน จะไปยื่นร้องต่อศาลฎีกาในกรณีดังกล่าว

ขณะที่พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว อดีตผู้ช่วยผบ.ตร.ผู้สมัครสว. ในกลุ่มกฎหมาย กล่าวว่า มีความพยายามให้โหวตเตอร์ เลือกคนที่เป็นเป้าหมาย ช่วงที่มีการเลือกไขว้มีการเขียนโพยไว้ เหลือบมองไปเห็นเพื่อนข้างๆ ยังไม่อ่านใบสว. 3 จนจบก็ลงคะแนนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในเรื่องนี้กกต.ต้องใช้ความกล้าหาญในการตรวจสอบ ทั้งหมดนี้ตนไม่ได้พูดลอยๆ หลักฐานอยู่ที่ใบคะแนนทุกใบที่อยู่ในกล่อง เชื่อว่าทำได้ไม่ยาก เพียง 1 วันก็รู้ว่าใครเลือกใครบ้าง ยินดีที่จะเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติม อยากให้กกต.อย่าเพิ่งรีบประกาศผล 

พล.ต.ท.คำรบ ได้โชว์พยานหลักฐานที่เป็นโพยการลงคะแนน พร้อมระบุว่า "เป็นโพยที่ตกในห้องน้ำพอดีผมเป็นตำรวจ เลยเก็บหลักฐานทุกชนิด ผมได้โพยมาแล้วก็ไปเทียบกับคะแนนที่ได้มาเป๊ะ" 

พล.ต.ท.คำรบกล่าวว่า ส่วนเรื่องการยุบพรรคการเมือง มายื่นร้องแค่กระบวนการเลือก กรณีพรรคการเมืองมาเกี่ยวข้องหากมีหลักฐานก็ให้ไปเติมเอาเป็นรายบุคคล อย่างกลุ่มผมกลุ่มกฎหมาย กลับไปดูแล้วคนที่ได้กลับไม่ได้จบกฎหมาย แต่ทำอาชีพค้าขาย เป็นผู้ใหญ่บ้าน และจบราชภัฏ​มา และประวัติก็เขียนแค่บรรทัดเดียว

นายจิรัฏฐ์ แจ่งสว่าง อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​ศึกษา​ธิการ และผู้สมัครสว.กลุ่มการศึกษา กล่าวว่า จริงๆหลักฐานทั้งหลายมีแต่อยู่ในกล่องเลือกตั้ง เพียงแค่นำมาสแกนเก็บเข้าไปในระบบแล้วตรวจสอบว่า บัตรใดที่มีการลงคะแนนซ้ำกันมากๆ

อย่างที่ 2 คือการตรวจสอบคุณสมบัติ​เราต้องไปตรวจสอบคุณสมบัติที่ไม่ตรงปก ที่ตนแซวว่าเสื้อลายโปรไฟล์สั้น คนเหล่านี้จะได้รับการโหวต อันนี้เป็นเรื่องจริงว่า บุคคลเหล่านี้เป็นบุคคลต้องสงสัย แล้วนำคนเหล่านี้มาสอบ มันจะย้อนไปถึงในเส้นทางว่าสัมพันธ์​กับบุคคล หรือสายสีใด จึงสามารถไปเล่นงานพวกเขาได้