'ธรรมนัส' นำ 19 เปิดตัวเข้าสังกัด 'กล้าธรรม' ยันไม่ใช่พรรคอะไหล่เพื่อไทย

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา พรรคกล้าธรรม พร้อมด้วย 19 สส.ที่ถูกขับจากพรรคพลังประชารัฐ แถลงข่าวการเข้าสังกัดพรรคกล้าธรรมอย่างเป็นทางการ โดยมีนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรมร่วมแถลงด้วย

 

 ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ปัจจุบัน พรรคกล้าธรรม มี สส. 24 คน และพร้อมเป็นแนวร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ยังมี สส.ที่ร่วมอุดมการณ์เดียวกัน และพร้อมจะเข้าสังกัดพรรคกล้าธรรมอีกจำนวนหนึ่ง ที่เมื่อรวมยอดสส.ที่มี อาจได้ถึง 30 คน ส่วนจะเปิดตัวเมื่อใดนั้นต้องเวลาที่สุกงอม ส่วน สส.พรรคประชารัฐที่ยังไม่ย้ายสังกัด รวม 20 คนนั้น ยังถือว่าเป็นพี่น้องกันและพูดคุยกันเป็นปกติ

 

ส่วนการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีเพิ่ม ไม่ได้มองประเด็นดังกล่าว เพราะในฐานะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ต้องทำงานเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนเพื่อให้ประชาชนหลุดพ้นจากปัญหาต่างๆ   ส่วนหากจะมีการปรับครม. จะรับตำแหน่งหรือไม่  ตนเลยจุดนั้นมาแล้วไม่อยากเป็นอะไร ปัจจุบันมีตัวแทนที่เป็นรัฐมนตรี ทั้ง นางนฤมล และ นายอัคร พรหมเผ่า ที่เป็นน้องชาย ในฐานะ รมช.เกษตร

 

 “อยากเป็นอะไรหรือไม่ หากได้เป็นก็เป็น หากไม่ได้เป็นก็ไม่ได้ใส่ใจ จะทำงานในหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ”  

 

ส่วนกรณีแยกตัวจากพรรคพลังประชารัฐมีดีลกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า ตนไม่คุยอะไรกับใคร และไม่คุยอะไรกัน ทั้งนี้ตนยืนยันว่าจะออกมาโดยสันติ ไม่ทะเลาะกับใคร และจะทำงานที่สร้างสรรค์ มากกว่าทำลายซึ่งกันและกัน ทำการเมืองแบบใหม่ ไม่ทำงานการเมืองแบบเก่า

 

ถามย้ำว่ากรณีแยกตัวเกี่ยวกับเรื่องที่ดินและการสอบถือครองที่ดินสปก. หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ปฏิเสธทันทีว่าไม่เกี่ยวกับ สปก. หากจำได้ ตั้งแต่ตนเป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์ มีการเปิดประเด็นของไร่ภูนับดาว และมีการตรวจสอบโดยกรรมการที่มาจากหลายหน่วยงาน อย่างไรก็ดีในประเด็นเรื่องเส้นเงิน แม้ตนพอรู้คร่าวๆ  แต่ไม่ใช่หน้าที่ อีกทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไม่สามารถบังคับหน่วยงานหรือใครให้ทำได้

 

ส่วนการตั้งข้อสังเกตว่าพรรคกล้าธรรมจะเป็นพรรคอะหลั่ยของพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่าไม่ใช่ และตอนนี้เราเป็นพรรตคร่วมรัฐบาล เมื่อพรรคแกนนำมีนโยบายอย่างไร พร้อมเห็นด้วยไม่คัดค้าน แต่การเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เข้าสภาฯ พรรคร่วมรัฐบาลควรคุยกันก่อน ส่วนพรรคไหนไม่เห็นด้วยบ่อยๆ ควรออกไป

 

ซึ่งในการเลือกตั้งในสมัยหน้า ต้องสู้ให้เต็มที่เพื่อให้ลูกพรรคชนะ โดยมีพื้นที่ที่เล็งว่าจะได้สส.เพิ่ม เช่น สุราษฎร์ธานี กำแพงเพชร ราชบุรี เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าจะฮุบพื้นที่ของสส.ของพรรคพลังประชารัฐมาทั้งหมดหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “ไม่พูดแบบนั้น แต่คนที่ได้คะแนน 20,000 คะแนนขึ้นไปตอนนี้อยู่กับเรา”