เผยผลสำเร็จ Krungsri ESG Awards เล็งเสริม ESG Academy ต้นปี 67

          นางสาวดวงกมล ลิมป์พวงทิพย์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจ SME ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยถึงแนวทางการส่งเสริมและยกย่องธุรกิจในการขับเคลื่อนด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) และธรรมาภิบาล (Governance) หรือ ESG ว่า จากการริ่เริ่มโครงการ Krungsri ESG Awards 2023 ขึ้นครั้งแรกและได้มอบรางวัลให้แก่กลุ่มผู้ประกอบการ SME จำนวน 18 รางวัลนั้น ถือว่าได้รับผลตอบรับจากลูกค้าที่ค่อนข้างดีมากและยังถือเป็นแรงกระตุ้นสำคัญให้ลูกค้าตื่นตัวในเรื่อง ESG ยิ่งขึ้น

          ทั้งนี้นางสาวดวงกมลยังเปิดเผยอีกว่า  ภายใต้โครงการ Krungsri ESG Awards จะมุ่งขับเคลื่อนใน 3 แนวทาง ได้แก่ 1. เรื่องของการปรับ Business Model ทั้งในเรื่องของกระบวนการผลิต กระบวนการจัดการ กระบวนการทำรายงานต่าง ๆ โดยคำนึงถึงการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 2. การใช้แนวทาง Circular Economy ที่จะก่อให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือลดปริมาณขยะ หรือ ปริมาณสิ่งสูญเสีย 3. การใช้ Green Energy ซึ่งเป็นการลงทุนเพื่อนำพลังงานสะอาดมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ

          สำหรับโครงการ Krungsri ESG Awards 2023 จัดขึ้นเป็นปีแรก มีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งส่งเสริมให้ลูกค้าธุรกิจตระหนักถึงความสำคัญและนำแนวคิด ESG ไปปรับใช้และต่อยอดเพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจในทุกมิติ โดยได้รับเกียรติจากองค์กรพันธมิตรผู้ทรงคุณวุฒิและมีวิสัยทัศน์ด้าน ESG ได้แก่ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าไทย องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สมาคมธุรกิจเพื่อสังคม และสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการพิจารณาและตัดสินรางวัล

          สำหรับปีนี้  มีกิจการที่เข้าร่วมโครงการเป็นกลุ่มลูกค้าธุรกิจของธนาคารกรุงศรีที่มียอดขายต่อปีไม่เกิน 1,000 ล้านบาท และกลุ่มธุรกิจเพื่อสังคมภายใต้เครือข่าย SE Thailand โดยมีกิจการที่ได้รับรางวัลรวมทั้งสิ้น 18 รางวัล ประกอบไปด้วย รางวัล Excellence จำนวน 6 รางวัล ซึ่งมอบให้กิจการที่มีความเป็นเลิศ ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล และรางวัล Highly commended จำนวน 12 รางวัล ซึ่งมอบให้เพื่อเชิดชูกิจการที่ริเริ่มและดำเนินการตามแนวปฏิบัติที่ดีทั้งสามด้าน  นอกจากนี้ ในงานมอบรางวัลยังจัดงานแบบ Carbon Neutral Event  โดยชดเชยคาร์บอนเหลือศูนย์ เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นของกรุงศรีที่จะร่วมแก้ปัญหาของสภาพอากาศ

รางวัล Krungsri ESG Awards ประจำปี 2566 จำนวนรวม 18 รางวัล ดังนี้

ประเภท Excellence จำนวน 6 รางวัล ได้แก่

          บริษัท บิทไว้ส์ (ประเทศไทย) จำกัด

          บริษัท เอ็กซา ซีแลม จำกัด

          บริษัท เจดีฟู้ด จำกัด (มหาชน)

          บริษัท คิง ฟรุทส์ จำกัด

          บริษัท บูรพา พรอสเพอร์ จำกัด

          บริษัท แดรี่โฮม จำกัด

ประเภท Highly commended จำนวน 12 รางวัล ได้แก่

          บริษัท ทีทีที คอร์ปอเรชั่น จำกัด

          บริษัท โทฟุซัง จำกัด

          บริษัท เชิดชัย ออโต้เฮ้าส์ จำกัด

          บริษัท ยูเมด้า จำกัด

          บริษัท จีฮวา อินดัสทรีส์ จำกัด

          บริษัท เวสต์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด

          บริษัท แสงชัย มิเตอร์ จำกัด

          KANSAI ENERGY SOLUTIONS (THAILAND) CO., LTD.

          บริษัท อู่ทอง ไบโอพาวเวอร์ จำกัด

          บริษัท กรีนเนท จำกัด

          บริษัท โฟล์คชาร์ม จำกัด

          บริษัท แจสเบอร์รี่ จำกัด

          "เชื่อว่า Krungsri ESG Awards 2023 จะสร้างแรงกระเพื่อมในระดับลูกค้าธุรกิจ SME ทั้งของกรุงศรีฯ และภายนอก ทั้งเป็นการสร้างแรงผลักดันให้กับลูกค้าธุรกิจที่เขาทำดีอยู่แล้วจากการที่ได้รับรางวัลนี้ รวมถึงยังสามารถใช้รางวัลนี้เป็นการนำเสนอและอ้างอิงให้กับคู่ค้าของเขา ตลอดจนช่วยสร้างชื่อเสียงและตอกย้ำในการดำเนินธุรกิจของเขาว่ามาถูกทางแล้ว"

          สำหรับในปี 2567 ธนาคารกรุงศรีอยุธยามีแผนจะส่งเสริมเรื่อง ESG ให้เข้มข้นกว่าเดิมโดยเตรียมต่อยอดจัดกิจกรรม ESG Academy ภายใต้โครงการ Krungsri ESG Award  ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนให้ลูกค้ากลุ่ม SME ได้ผ่านกระบวนการเรียนรู้และเตรียมตัวสำหรับการเสนอ Transition plan และ Transition process ร่วมกัน ด้วยหวังให้เป็นการช่วยลูกค้าวางแนวทาง เพื่อปรับเปลี่ยนสู่การทำ ESG ซึ่งขณะนี่อยู่ระหว่างการเตรียมพัฒนาหลักสูตรต่าง ๆ ร่วมกับพันธมิตรของธนาคาร

          "เราเปิดรับ SME ทุกรายให้เข้ามาร่วมโครงการ Krungsri ESG Award ซึ่งจะมีการประชาสัมพันธ์ผ่านทีมลูกค้าสัมพันธ์ของเราโดยให้ลูกค้ากรอบแบบสอบถามเพื่อเเป็นการเริ่มต้นก่อน ทั้งนี้หากลูกค้าตั้งใจจริงก็จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการอื่น ๆ ต่อมา โดยมองว่าหากลูกค้าได้เข้าร่วมโครงการปละผ่านการอบรมกับ ESG Academy น่าจะเป็นตัวช่วยจุดประกายให้แก่ลูกค้าได้ เพราะภายใต้การเรียนรู้ตรงนี้ อย่างน้อยที่สุดจะทำให้มีแนวคิดปรับเปลี่ยนธุรกิจ มีแผน หรือมี process สำหรับธุรกิจได้"

สู่ Net Zero ปี 2573

          อย่างไรก็ตามธนาคารกรุงศรีอยุธยาเองก็มีแนวทางและบทบาทในดำเนินธุรกิจที่ส่งเสริมเรื่อง ESG ในภาพกว้างด้วยเช่นกัน โดยนางสาวดวงกมลกล่าวว่า ด้วยฐานะสถาบันการเงินที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทั้งด้านการปล่อยสินเชื่อและดูแลลูกค้าธุรกิจ ดังนั้นธนาคารก็น่าจะต้องเข้ามามีบทบาทขับเคลื่อนในการปรับตัวของภาคธุรกิจให้เข้าสู่ ESG ขณะที่ทางธนาคาเองก็ตั้งเป้าหมายว่า 7 ปีนับจากนี้ คือในปี 2573 การปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากการดำเนินธุรกิจต้องเป็นศูนย์  (Net Zero) เช่นเดียวกับมีเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อหรือสนับสนุนโครงการธุรกิจเพื่อสังคมและโครงการธุรกิจที่ดำเนินธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนจำนวน 50,000 ถึง 100,000 ล้านบาทอีกด้วย

ขณะที่ในกลุ่มลูกค้า SME เองคาดว่าจะสนับสนุนถึงกว่า 3,000 ล้านบาทภายในสิ้นปี 2566 ซึ่งครอบคลุมทั้งสินเชื่อโซลาร์รูฟท็อปเพื่อผู้ประกอบธุรกิจและ Krungsri Digital Supply Chain Solution ด้วย

นางสาวดวงกลมยังกล่าวถึงการทำงานร่วมกับบริษัทแม่อย่างมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG)อีกว่า ด้วยการเป็นกลุ่มสถาบันการเงินระดับโลก ทำให้ MUFG มีทั้งองค์ความรู้และผู้เชี่ยวชาญ จึงสามารถแบ่งปันความรู้และแรงบันดาลใจหลายอย่างให้แก่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จึงเป็นทั้งการเรียนรู้และสนับสนุนซึ่งกันและกันในหลาย ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องของทางด้านการออกผลิตภัณฑ์ การนำผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยเสริม มีการจัดผู้เชี่ยวชาญทางด้าน ESG ให้ความรู้กับลูกค้า

ทั้งนี้นางสาวดวงกลมได้ทิ้งท้ายถึงการขับเคลื่อนแนวทาง ESG ให้แก่ลูกค้ากลุ่ม SME อีกว่า อยากให้ลูกค้าเกิดมุมมองด้าน ESG ในแบบที่เชื่อมโยงกัน หรือต้องพัฒนาร่วมกันทั้ง E  S และ G นั่นคือไม่เพียงพัฒนาด้านเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังต้องดำเนินธุรกิจโดยดูแลบุคลากรหรือคนทำงานด้วย ตลอดจนมีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน เปิดเผย โปร่งใส และให้เกิดการตรวจสอบซึ่งกันและกันจากทั้งภายในและภายนอก จึงจะครบองค์ประกอบของ ESG ในทางที่ควรเป็นนั่นเอง

สำหรับธุรกิจที่สนใจเข้าร่วมโครงการ Krungsri ESG Awards ในปี 2567 สามารถลงทะเบียนได้ที่ https://bit.ly/Krungsri-ESG-Awards-2024